วันที่ 24 มิถุนายน 2025 เข้าสู่วันที่ 12 ของสถานการณ์การโจมตีรุนแรงระหว่างประเทศอิสราเอลและอิหร่าน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ปรากฏว่า เมื่อเวลา 07:30 น. ตามเวลาในประเทศไทยวันนี้กองทัพอิหร่านรายงานว่าไปตรวจจับโดรน ซึ่งไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าเป็นของฝ่ายใดเคลื่อนไหวอยู่ในเป้าหมายบริเวณกองทัพอิหร่านที่มีชื่อว่าทาจิ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองแบกแดด อย่างไรก็ตามไม่มีการใช้ปฏิบัติการการโจมตีใด ๆ เกิดขึ้น
รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายเจดี แวนซ์ ล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ๊อกซ์ สหรัฐอเมริกา ว่าหลังการเปิดปฏิบัติการโจมตีที่มีชื่อว่า Midnight Hammer ของกองทัพสหรัฐอเมริกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งผลให้อิหร่านสูญเสียความสามารถในการที่จะพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพนิวเคลียร์ รวมถึงไม่สามารถที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์จากโรงงานและอุปกรณ์ต่างๆที่เคยมีอยู่เนื่องจากได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง
ด้านประเทศ กาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้กลับมาประกาศเปิดน่านฟ้าเป็นปกติอีกครั้ง อย่างไรก็ตามสายการบินที่มีสัญชาติในอเมริกาเหนือได้แก่สหรัฐอเมริกาและแคนาดารวมถึงสายการบินแอร์อินเดียของประเทศอินเดียยุตติการบินเข้ามาอย่างในภูมิภาคตะวันออกกลาง
เมื่อเวลา 01.00 น. ตามเวลาไทย เจ้าหน้าที่ทหารแห่งกระทรวงกลาโหมประเทศกาตาร์ เปิดเผยว่ากองทัพอิหร่านยิงขีปนาวุธจำนวน 19 ลูกเข้ามายังฐานทัพอากาศชื่อว่าอัล อูเดอิด ซึ่งเป็นฐานทัพอากาศที่อยู่ในประเทศกาตาร์ และเป็นที่ตั้งของกองทัพสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามขีปนาวุธของอิหร่าน 18 ลูกถูกยิงสกัดตกมีเพียงหนึ่งลูกที่พุ่งเข้าสู่บริเวณรอบนอกของฐานทัพอากาศดังกล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว ทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในตะวันออกกลาง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 40,000 คนนั้น โดยส่วนใหญ่จะประจำการอยู่บนเรือรบของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นยุทธวิธีในการเตรียมตัวท่ามกลางสถานการณ์การโจมตีที่มีความรุนแรงในตะวันออกกลาง
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ขณะที่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธของอิหร่านมายังฐานทัพของสหรัฐในประเทศกาตาร์นั้น ทางการอิหร่านได้มีการแจ้งเตือนมายังประเทศกาตาร์และกองทัพสหรัฐอเมริกาก่อนที่จะลงมือยิงขีปนาวุธชุดดังกล่าว ถือเป็นการโจมตีที่อ่อนแอ เปรียบเสมือนกับเป็นการยิงตอบโต้กลับเพื่อการแสดงสัญลักษณ์ทางการทหารที่มีต่อคู่ขัดแย้ง
กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่านับตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนจนถึงเมื่อมากกว่า 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้อพยพทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของกองทัพสหรัฐอเมริกาจำนวน 250 คน ออกจากประเทศอิสราเอลโดยการประสานและร่วมมือกันกับกองทัพอิสราเอล ด้วยการใช้ทั้งเครื่องบินทหารและเครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมาลำรวม 7 เที่ยวบินออกไปยังประเทศกรีก และเข้าสู่ยุโรปที่อิตาลี นอกจากนี้ยังมีการอพยพทางภาคพื้นดินออกไปไปยังประเทศจอร์แดนด้วย