จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ประกาศโครงการสนับสนุนด้านพลังงานยั่งยืนและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน สำหรับภาคครัวเรือน ภายใต้มาตรการ Quick Big Win ที่จะทำให้เสร็จภายใน 4 เดือนนี้ก่อนยุบสภา โดยเรียงตามขนาดการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ได้แก่1.โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 2.โซลาร์ฟาร์มชุมชน 3.มาตรการลดหย่อนภาษีติดตั้งโซลาร์ในครัวเรือน และ4. โซลาร์ลอยน้ำของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าโครงการทั้งหมดนี้จะช่วยให้ 1. ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในไทยเพิ่มขึ้นสูงสุด 1.4 เท่า และ 2.ลดค่าไฟครัวเรือนราว 50 – 60%
โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร
โครงการนี้จะช่วยลดค่าไฟฟ้าสำหรับสูบน้ำได้สูงถึง 60% ซึ่งเหมาะกับเกษตรกรกลุ่มชาวนาที่มีพื้นที่ไม่เกิน 58 ไร่ ค่าไฟฟ้าลดลงจาก 5 บาท เหลือ 2 บาท ต่อการสูบน้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นข้าวกำลังกำลังเติบโต เดิมทีชาวนาต้องจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพื่อใช้เป็นพลังงานในการสูบน้ำเฉลี่ย 1,000 บาทต่อวัน
อย่างไรก็ดี ประสิทธิผลของโครงการนี้อาจถูกจำกัดจากอุปสรรคในหลายด้าน อาทิ ความทนทานของโซลาร์จากสภาพอากาศโดยเฉพาะฟ้าผ่า ความรู้และทรัพยากรในการดูแลรักษาระบบโซลาร์ของเกษตรกร รวมถึงความซับซ้อนในการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าจากโซลาร์และการจัดการน้ำ
โซลาร์ฟาร์มชุมชน
โซลาร์ฟาร์มขนาดไฟฟ้า 5 เมกะวัตต์ จะช่วยครัวเรือนลดค่าไฟฟ้า และครอบคลุมการจ่ายไฟฟ้าให้กับครัวเรือนประมาณ 1,200 – 1,500 หลัง (ราว 6,000 คน) โดยคาดว่าชุมชน 1 แห่ง ใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยเพียง 1.2 เมกะวัตต์ อีกทั้งขนาดการผลิตไฟฟ้ายังไม่เกินความสามารถในการบริหารจัดการของชุมชน ทั้งในแง่ระบบกักเก็บไฟฟ้า การบำรุงรักษา และช่วยลดภาระด้านโครงข่ายส่งไฟฟ้า (grid connection) อย่างไรก็ดี โครงการนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นโซลาร์ระดับชุมชนเพียง 0.4% ของชุมชนทั้งหมดในไทย (300 ชุมชน จากทั้งหมด 70,372 ชุมชน)
มาตรการลดหย่อนภาษีติดตั้งโซลาร์ในครัวเรือน
ช่วยลดหย่อนภาษีติดตั้งโซลาร์ได้สูงสุด 70,000 บาท และช่วยลดค่าไฟฟ้าราว 50% หรือ 1,500 – 5,000 บาทต่อเดือน
นอกจากนี้ กลุ่มเป้าหมายติดตั้งโซลาร์ 90,000 ครัวเรือนจะช่วยให้การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในประเทศเพิ่มขึ้นราว 270 – 900 เมกะวัตต์
โซลาร์ลอยน้ำของ กฟผ.
การผลิตไฟฟ้าจากโครงการนี้คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาของ กฟผ. ทั้งหมดในปี 2567 จากอุปสรรคสำคัญ อาทิ ต้นทุนเริ่มต้นที่สูง ความซับซ้อนทางเทคนิคในการรับมือกับสภาพแวดล้อมน้ำและคลื่นลม รวมถึงความเสี่ยงผลกระทบต่อระบบนิเวศน้ำ และความจำเป็นในการติดตั้งระบบส่งไฟฟ้าเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าเดิม
โดย ในภาพรวม 4 โครงการนี้ยังส่งเสริมการใช้พลังงานยั่งยืนได้ค่อนข้างจำกัด แต่เป็นจุดเริ่มต้นการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในอนาคต และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนอย่างยั่งยืนในระยะยาว