ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ปัญหาข้อพิพาทไทย-กัมพูชา กระทบต่อภาคธนาคารของไทยในขอบเขตที่ยังบริหารจัดการได้ เกาะติดธุรกรรมการค้าแนวชายแดน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ จากกรณีระหว่างไทยและกัมพูชาที่หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนยังอยู่ระหว่างติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ทำการรวบรวม ประเมินผลเบื้องต้น และมีมุมมองต่อประเด็นที่ภาคการเงินของไทยมีความเชื่อมโยงกับกัมพูชาใน 3 มิติ ดังนี้

1. มิติการโอนเงินและชำระเงิน โดยหากเป็นธุรกรรมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะยังสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง แต่ยังมีประเด็นข้อกังวลด้านอื่นของภาคธุรกิจที่จะต้องติดตามใกล้ชิดหลังจากนี้

2. มิติการลงทุนในสินทรัพย์กัมพูชาของผู้ลงทุนไทย ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด พบว่า ยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับการลงทุนในต่างประเทศทั้งหมด

และ 3. มิติภาคการธนาคาร โดยพบว่า ขนาดสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินรับฝากจากการดำเนินงานในกัมพูชายังมีสัดส่วนไม่สูง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับยอดคงค้างทั้งระบบธนาคารพาณิชย์ในไทย

ในเบื้องต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า พัฒนาการของความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชายังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง โดยข้อกังวลส่วนใหญ่จะเป็นประเด็นในเรื่องธุรกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจบริเวณแนวชายแดน

อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่อภาคธนาคารของไทยจะอยู่ในขอบเขตที่สามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจาก 2 ประเด็นหลัก คือ

1. ในการออกไปให้บริการทางการเงินในต่างประเทศ ธนาคารพาณิชย์จะใช้กลยุทธ์การดำเนินงานที่ระมัดระวังอยู่แล้ว โดยคำนึงถึงความพร้อมของทรัพยากรด้านการเงินและกำหนดขอบเขตการให้บริการทางการเงินเฉพาะในด้านที่มีความถนัด

และ 2. ธนาคารพาณิชย์มีการติดตามและประเมินสถานการณ์ รวมถึงบริหารจัดการความเสี่ยงในธุรกิจต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles