สภาพัฒน์ เปิดจีดีพีไทย  ไตรมาส 3/2568 โตได้ 1.2% ต่ำสุดในรอบ 4 ปี แม้ส่งออกยังขยายตัวดี ทั้งปีคาดขยายตัวที่ 2% รับผลกระทบภาษีสหรัฐมากกว่าในภูมิภาค

วันนี้ (17 พ.ย.) นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 และแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568-2569 ว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2568 ขยายตัว 1.2% ชะลอลงจาก 2.8% ในไตรมาสที่สองของปี 2568 อีกทั้งเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2568 ลดลงจากไตรมาสที่สองของปี 2568 0.6%  รวม 9 เดือนแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทย ขยายตัว 2.4%

ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ สาขาเกษตรกรรมขยายตัว 1.9%  สาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมลดลง 1.6% สาขาการก่อสร้างลดลง 4% สาขาการขายส่งและการขายปลีกขยายตัว 6.5% สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้าขยายตัว 3% และสาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหารขยายตัว 0.8% เป็นต้น 

ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.76% ต่ำกว่า 0.88% ในไตรมาสก่อน และต่ำกว่า 1.02% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ -0.7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่0.8% ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.7 พันล้าน ดอลลาร์ สรอ. (88.3 พันล้านบาท) ส่วนเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 262.4 พันล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 มีมูลค่าทั้งสิ้น 12.23 ล้านล้านบาท คิดเป็น  64.8% ของ GDP

สำหรับ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 2.0% ชะลอลงจากการขยายตัว 2.5% ในปี 2567 อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ (-0.2) และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.8% ของ GDP จากเดิมที่เราคาดการณ์ว่าการส่งออกของโลกจะหดตัวลง แต่การส่งออกในปีนี้ยังมีการเติบโตอยู่ทำให้มีการปรับขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จากเดิม 2.7% มาอยู่ที่ 3.4% แต่ในปี 2569 คาดว่าจะได้รับผลกระทบจนปริมาณการค้าโลกลดลงเหลือ 2.3%  โดยไทยมีสินค้าที่จะถูกผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐกว่า 82% ซึ่งมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ขณะที่สินค้าที่มีการสวมสิทธิ์เพื่อส่งออกมีสินค้าจากจีนที่สวมสิทธิ์เพื่อส่งออกของไทยก็มีสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง  ขณะที่โครงสร้างการส่งออกสินค้าของไทยไปสหรัฐก็เพิ่มขึ้น และสินค้าที่เรานำเข้าจากจีนก็เพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดสำคัญที่ต้องมีการพิจารณากันต่อไป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles