สภาหอการค้าฯ ผนึกกำลังห้างโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้าทุกภูมิภาคของไทย จัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ ขยายตลาด เสริมศักยภาพ SME และเกษตรกรไทย 

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ ผนึกกำลังร่วมกับห้าง Modern Trade  ชั้นนำของประเทศไทย จัดกิจกรรม “Big Match” ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568  เวลา 09.00-17.00 น. ณ คอนเวนชั่นฮอลล์ ชั้น 3 อาคารหอประชุม สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ถนนแจ้งวัฒนะ จังหวัดนนทบุรี เพื่อผลักดันผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เข้าสู่ช่องทางการจัดจำหน่าย  Modern Trade ผ่านการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

ซึ่งกิจกรรม “Big Match” ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 อย่างต่อเนื่อง และได้ยกระดับความสำเร็จจากปีที่ผ่านมา โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มมากขึ้น และมีห้าง Modern Trade ชั้นนำของไทยเข้าร่วมมากถึง 12 แห่ง ได้แก่ 7-Eleven, Tops, Gourmet Market, CP Axtra (Makro, Lotus’s), Big C, OR, Jiffy และยังได้รับความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตามหัวเมืองสำคัญในทุกภูมิภาคของไทย ได้แก่ ห้างสหไทย การ์เด้น พลาซ่า, ห้างเซ็นโทซ่า, รัตนามาร์ท, Blue Shop, ศูนย์การค้าโอเชี่ยนชุมพรและบิ๊กวัน ชุมพร จึงถือได้ว่ากิจกรรม Big Match เป็นการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่รวบรวมโอกาสการยกระดับธุรกิจของผู้ประกอบการ SME และเกษตรกร เข้าสู่ห้าง Modern Trade ที่ครอบคลุมช่องทางการขายไปทั่วประเทศอย่างแท้จริง

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่ากิจกรรม “Big Match” เป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าและพัฒนาศักยภาพในการเข้าสู่ตลาด Modern Trade ตามนโยบายของหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Unlocking New Growth: ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” ซึ่งได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME ให้เข้มแข็ง โดยการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนสร้างเครือข่ายการค้าและจับคู่ธุรกิจ ซึ่งกิจกรรม Big Match ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นกลไกสำคัญที่จะยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย ให้มีความสามารถนำสินค้าจำหน่ายผ่านสาขาของห้าง Modern Trade ที่มีอยู่ทั่วประเทศ และในปีนี้เราได้เชิญห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตามหัวเมืองสำคัญในทุกภูมิภาคของไทยมาเจรจาจับคู่ธุรกิจด้วย ซึ่งเป็นการขยายโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถกระจายสินค้าไปตามจังหวัดใหญ่ๆในทุกภูมิภาค เพื่อจำหน่ายสินค้าในระดับท้องถิ่นได้โดยตรง ซึ่งกิจกรรม Big Match ในครั้งนี้ มีผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมการเจรจาจับคู่ธุรกิจถึง 319 ราย และผ่านการคัดเลือกมาร่วมงานวันนี้ 210 ราย นับว่ามีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมมากกว่าปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง เพื่อสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยให้เติบโต แข็งแกร่ง และยั่งยืนไปด้วยกัน

นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล ประธานคณะกรรมการจับคู่ธุรกิจ กล่าวเสริมว่า การจัดกิจกรรม Big Match ครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการบูรณาการความร่วมมือในหลายภาคส่วน และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญ ดังนั้น กิจกรรม Big Match ในวันนี้ไม่เพียงแต่จัดให้มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจเท่านั้น แต่เรายังจัดให้มีการสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อที่จะช่วยพัฒนาสินค้าของผู้ประกอบการ โดยมุ่งเน้นที่การสร้างความเข้าใจพฤติกรรมผู้ซื้อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้โดนใจตลาด รวมถึงการใช้พลัง AI มาช่วยในการพัฒนาสินค้าและกลยุทธ์การตลาด เพื่อเพิ่มยอดขาย สร้างสินค้าที่แตกต่างและสร้างสรรค์ อีกทั้ง ภายในงานยังจัดให้มีคลินิกให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการสร้างแบรนด์ การพัฒนาแพคเกจจิ้ง ด้านการวิจัยตลาดและการพัฒนาสินค้า ด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ และด้านการใช้ข้อมูลสารสนเทศและสื่อดิจิทัล ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการให้เติบโตได้อย่างเข้มแข็ง

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles