ทำเนียบขาว สหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ แถลงว่า อัตราภาษีศุลกากร หรือภาษีนำเข้าสินค้าประเภทเหล็กและอะลูมิเนียมที่ประกาศปรับเพิ่มขึ้นอีก 25% กับสินค้าประเภทดังกล่าวที่นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ตามเวลาในฝั่งตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์แล้ว รวมถึงการยกเลิกข้อยกเว้น หรือมาตรการบรรเทาภาษีดังกล่าวทุกชนิด เช่น ยกเลิกโควต้าปลอดภาษีอากรเหล็กและอลูมิเนียมกับทุกประเทศที่เคยได้ประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก
สำหรับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ได้รับการเก็บขึ้นอัตราภาษี 25% ใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วนั้นจะครอบคลุมถึงจำนวนทั้งหมด 289 รายการสินค้า ในขณะที่มูลค่าของสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมนับตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่จะได้รับผลกระทบมีมูลค่าสูงถึง 147,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 ล้านล้านบาท สำหรับมูลค่าการนำเข้าสินค้ามายังประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2024 พบว่าอยู่ที่ 147,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5 ล้านล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวนั้น เกือบ 2 ใน 3 หรือกว่า 66% เป็นอลูมิเนียม และอีก 1 ใน 3 เป็นเหล็ก
อัตราภาษีใหม่ที่เพิ่มขึ้นอีก 25% ในขณะนี้จะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิ้นส่วนที่ทำจากอลูมิเนียมรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 850,000 ล้านบาทกับสินค้า ได้แก่ ชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนรถบรรทุก ชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์แลเครื่องจักรกล และชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิตรถยนต์พิเศษเฉพาะทาง ในขณะเดียวกันจะส่งผลกระทบต่อการนำเข้าชิ้นส่วนที่ทำจากเหล็กรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 510,000 ล้านบาทกับสินค้า ได้แก่ สินค้าเฟอร์นิเจอร์ สินค้าชิ้นส่วนและอะไหล่
สำหรับ 10 ประเทศที่สหรัฐอเมริกานำเข้าสินค้าเหล็กมากที่สุด เรียงตามลำดับ ได้แก่ แคนาดา บราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ เวียดนาม ญี่ปุ่น เยอรมนี ไต้หวัน เนเธอร์แลนด์ และจีน โดยประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่สหรัฐอเมริกามีการสั่งนำเข้าเหล็กพุ่งสูงในสัดส่วนที่มากที่สุดและเป็นประเทศเดียวในอาเซียนส่งออกเหล็กเป็นจำนวนมากมากที่สุดเข้าไปในสหรัฐอเมริกา
สำหรับ 9 ประเทศที่สหรัฐอเมริกานำเข้าสินค้าอลูมิเนียมมากที่สุด เรียงตามลำดับ ได้แก่ แคนาดา จีน เม็กซิโก เกาหลีใต้ อินเดีย บาห์เรน โคลอมเบีย เยอรมนี และอาเจนติน่า โดยประเทศเวียดนามเป็นประเทศที่สหรัฐอเมริกามีการสั่งนำเข้าเหล็กพุ่งสูงในสัดส่วนที่มากที่สุดและเป็นประเทศเดียวในอาเซียนส่งออกเหล็กเป็นจำนวนมากมากที่สุดเข้าไปในสหรัฐอเมริกา
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2025 ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งบริหารภายใต้กฎหมายขยายการค้าบนมาตรา 232 ด้วย การเก็บขึ้นอัตราภาษีศุลกากรหรืออัตราภาษีนำเข้าเป็น 25% กับสินค้าเหล็ก และปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าอะลูมิเนียมจากเดิม 10% เป็น 25% มีผลบังคับใช้กับทุกประเทศทั่วโลก และยกเลิกข้อยกเว้น หรือมาตรการบรรเทาภาษีดังกล่าว เช่น ยกเลิกโควต้าปลอดภาษีอากรเหล็กและอลูมิเนียมกับทุกประเทศที่เคยได้ประกาศใช้ไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ แคนาดา บราซิล และเม็กซิโก
ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากวันนี้ได้ลงนามในคำสั่งปรับขึ้นอัตราภาษีใหม่กับเหล็กและอะลูมิเนียมแล้ว รัฐบาลสหรัฐจะประกาศใช้มาตรการปรับปรุงมาตรฐานอเมริกาเหนือ โดยให้มีผลกับการนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียม ด้วยการแปรสภาพเหล็กนำเข้าโดยการหลอมละลายและเท รวมถึงแปรสภาพอลูมิเนียมโดยการหลอมละลายและหล่อเป็นสินแร่อลูมิเนียมภายในพื้นที่ที่กำหนดไว้เมื่อการนำเข้าดังกล่าวมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อลดการนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมที่แปรรูปจากประเทศจีน
นอกจากนี้ประธานาธิบดีสหรัฐยังได้ประกาศคำสั่งไปยังกรมศุลกากร และเจ้าหน้าที่รัฐบาลด้านการค้าแนวชายแดนของสหรัฐอเมริกาทั้งภาคเหนือ และภาคใต้ของประเทศ ให้ดำเนินการตรวจตราอย่างเข้มข้นกับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากต่างประเทศผ่านแนวชายแดน เพื่อป้องกันการแจ้งพิกัดและรายละเอียดสินค้าทั้ง 2 ประเภทที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง เพื่อหวังผลในการหลบเลี่ยงอัตราภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม