นายอภิชิต ประสพรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ากรณีทางการสหรัฐเลื่อนการเจรจาไทย เกี่ยวกับเรื่องภาษีตอบโต้สหรัฐ หากมองในมุมภาคเอกชนคิดว่าการที่สหรัฐเลื่อนเจรจากับไทยออกไป หากมองในแง่ดี การที่สหรัฐเลื่อนคือไทยไม่ใช่ปัญหาสำคัญของเขา ซึ่งเวลาที่เลื่อนออกไปก็ทำให้ไทยมีเวลาเตรียมการมากขึ้น แต่ถ้าไทยได้คิวแรกๆ ในการเจรจา คือประเทศเราเป็นปัญหาใหญ่ของสหรัฐ ขณะที่ทางการไทยเองก็จะมีเวลาและมีโอกาสได้เตรียมการ อาทิ เรื่องนวัตกรรมที่สหรัฐมีซัพพลาย ส่วนไทยมีดีมานด์ อาจจะหยิบยกเรื่องนี้ไปเจรจาเพิ่มเติม
ส่วนกรณีกระแสข่าวเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ ถ้าเกิดขึ้นจริงจะส่งผลต่อการเจรจากับสหรัฐหรือไม่นั้น มองว่าเรื่องการเมืองกับภาคราชการที่มีหน้าที่ในการเจรจามีความแยกส่วนกัน โดยเรื่องการเมืองอาจจะกระทบบ้าง แต่วันนี้ทั่วโลกให้ความสนใจกับนโยบายภาษีตอบโต้ของสหรัฐ ประเทศไทยจะโดนขึ้นภาษีศุลกากร 36% จริงหรือเปล่า ขณะที่ประเทศที่ผลิตสินค้าอย่างเดียวกัน อาทิ เวียดนาม โดนภาษี 46% ถ้ามองไปตามนโยบายที่ประกาศออกมา ไทยก็ยังมีแต้มต่อถึง 10% ฉะนั้น ในช่วงที่ยังฝุ่นตลบอยู่นี้ก็ต้องรอดูก่อน
อย่างไรก็ตาม ส.อ.ท. ยังไม่ได้มองไปถึง การเปลี่ยนตัวหัวหน้าคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา หรือทีมไทยแลนด์ โดยเท่าที่ดูทีมเจรจาที่นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มองว่าเป็นทีมเจรจาที่มีความเข้มแข็งและมีความพยายามที่จะไปเจรจา
