ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 38,747 จุด -27 จุด หรือ -0.35% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,375 จุด +14 จุด หรือ +0.27% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,343 จุด +151 จุด หรือ +0.88% ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นวันที่ 2 ติดกัน ในสัปดาห์ผ่านไปดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +0.29%, +1.32% และ +2.38% ตามลำดับ
สาเหตุจากท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะสั้นอายุ 10 ปี พลิกสูงขึ้น แต่นักลงทุนลุ้นรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคมในวันพุธนี้ รวมถึงการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่มีขึ้น 2 วันติดกันโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11-12 มิถุนายนนี้
ด้านตัวชี้วัดโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลงในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 37% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 48% ในขณะที่เริ่มมองว่าการลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนจากที่เคยให้น้ำหนักมาที่เดือนกันยายน
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ