วันนี้ 20 มิถุนายน 2567 ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ 1,298.29 จุด ปรับลง 5.53 จุด หรือ -0.42% มูลค่าซื้อขาย 37,897.06 ล้านบาท โดยดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,293.69 จุด ทำจุดสูงสุดที่ 1,304.24 จุด
โดยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติ ในหุ้นกลุ่ม SET50 ขณะที่แม้ภาพรวมปัจจัยต่างประเทศดีขึ้น บอนด์ยีลด์ปรับลงหลังเปิดตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจจีนฟื้น แต่ตลาดบ้านเรายังถูกกดดันจากประเด็นคดีการเมืองยืดเยื้อกดดัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 หลักทรัพย์ ได้แก่
1. DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,120.34 ล้านบาท ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
2. CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,097.29 ล้านบาท ปิดที่ 54.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
3. AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,417.38 ล้านบาท ปิดที่ 60.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
ในวันนี้ 20 มิถุนายน 2567 พบว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -1,959.89 ล้านบาท เมื่อนับรวมตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -24,521.57 ล้านบาท สอดรับกับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงวันนี้ 20 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยมากถึง -106,681.19 ล้านบาท ส่งผลให้วันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยทะลุหลัก 100,000 ล้านบาทเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน
ข้อมูลถึงเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2024 นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิหุ้นไทยรวมกัน 21 วันทำการติดต่อกัน หรือตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคมถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2024 (ในวันทำการ) มูลค่า -41,285.37 ล้านบาท ส่งผลทำสถิตินักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยยาวนานที่สุดในรอบ 4 เดือน 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง หรือนับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2024
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงรับแรงขายจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ใน SET50 ถูกกดดันจากประเด็นคดีสำคัญทางการเมืองถูกเลื่อนออกไปในเดือน ก.ค.
ขณะที่ภาพรวมต่างประเทศปัจจัยต่างๆ เริ่มดีขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ชะลอตัวลงหลังจากการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว แต่ตลาดหุ้นไทยไม่ได้ตอบรับ เพราะยังคงถูกกดดันจากปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการเมือง
แนวโน้มวันพรุ่งนี้คาดแกว่งตัวรอปัจจัยต่าง ๆ ชัดเจน โดยคาดว่าหลังมีคำตัดสินคดีทางการเมืองทั้ง 2 คดี ทั้งคดียุบพรรคก้าวไกลและคดีพิจารณาคุณสมบัตินายกฯ ดัชนีน่าจะฟื้นตัว ระยะสั้นคาดแกว่งในกรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,330 จุด