ดัชนี SET Index ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ที่ 1,431.67 ปรับลง 8.22 จุด หรือ -0.57% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 40,324.88 ล้านบาท ดัชนีแกว่งผันผวน โดยทำจุดต่ำสุด 1,429.68 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,438.67 จุด
ตลาดหุ้นไทยวันนี้บรรยากาศการลงทุนปัจจัยค่อนไปทางลบมากกว่าบวก ได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงไทยอาจรับผลกระทบนโยบาย “ทรัมป์” รวมทั้งการเก็บภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% ตามแนวทาง OECD
สำหรับ 3 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 3,784.03 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
- EA มูลค่าการซื้อขาย 2,823.39 ล้านบาท ปิดที่ 4.04 บาท ลดลง 1.21 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,000.15 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยวันนี้ปัจจัยแวดล้อมค่อนไปทางลบมากกว่าโทนบวก แม้จะมีปัจจัยหนุนจากคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ยังได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงที่ไทยอาจถูกผลกระทบจากนโยบายตั้งกำแพงภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งการเก็บภาษีตามเกณฑ์ PILLAR 2 ของ OECD ที่อัตราภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำ 15% ทำให้เกิดข้อกังวลว่าบริษัทใดของไทยจะเข้าข่ายได้รับผลกระทบเชิงลบบ้าง ประกอบกับ ปัจจัยทางเทคนิคที่ SET หลุดแนวรับ 1,435 จุดสร้าง Sentiment เชิงลบกดดันดัชนี
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าคาดตลาดแกว่งกรอบแคบยังไร้ปัจจัยใหม่ขับเคลื่อน จับตาการประชุมเฟดที่ตลาดคาดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% และแนวโน้มทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะต่อไป ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.25% รวมทั้งรอลุ้นว่าจะมีการทำ Window dressing ก่อนสิ้นปีหรือไม่
ทั้งนี้มองกรอบแนวรับ 1,420 จุด และแนวต้าน 1,435 จุด