ดัชนี SET หุ้นไทย เปิดตลาดอยู่ที่ 1,451.04 จุด ลดลง 11.44 จุด หรือ-0.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,748.31 ล้านบาท จากแรงขายหุ้น DELTA ราคาดิ่งหนักเกือบ 13% หลังจากถูกตลาดหลักทรัพย์ฯ ติดเบรกความร้อนแรงของราคาหุ้นด้วยการสั่งให้ซื้อขายด้วยเกณฑ์ Cash Balance
บล.ทิสโก้ ประเมิน ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวกคล้ายกับตลาดหุ้นเอเชีย โดยมีปัจจัยบวกหลักๆ มาจากโมเมนตัมเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีขึ้น GDP ไตรมาส 3/67 ขยายตัวถึง 3% ดีกว่าตลาดคาดที่ 2.4% และคาดไตรมาส 4/67 จะเร่งตัวขึ้นมาที่ 4%
นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ย่อตัว และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า หนุนเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง หลังจากวานต่างชาติพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทยเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน และราคาน้ำมันดีดขึ้นถึง 3% คาดส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานและภาพรวมตลาดหุ้นไทย ให้แนวรับไว้ที่ 1,442 จุด และแนวต้าน 1,460-1,465 จุด
ด้านบล.กรุงศรี คาด SET วันนี้ แกว่งในกรอบแนวต้าน 1471-1475 จุด แนวรับ 1457-1452 จุด ดัชนี S&P500 ปิดทรงตัว รอตามสถานการณ์ยูเครน – รัสเซีย และกำไร NVIDIA ซึ่งรายงานกำไรช่วง After Hour แม้ทั้งรายได้,กำไรออกมาดีกว่าตลาดคาด ขณะที่ Outlook ที่ดีกว่าตลาดคาดเล็กน้อย ทำให้หลังปิดตลาด NVIDIA ถูกขาย -2.1% ส่วนปัจจัยมหภาคตลาดคาดรอติดตามสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐ
ภายในแรงขับเคลื่อนตลาดจาก DELTA (11% ของมูลค่าตลาด SET) มีโอกาสสะดุด ทั้งจิตวิทยาหนุน NVIDIA อ่อนลง และเม็ดเงินลงทุนชะลอลง หลังตลาดประกาศเป็นหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายลำดับ 1 ใช้เงินสดซื้อ 100% มีผล 21 พ.ย. – 11 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเม็ดเงินจะหนุนไปยังกลุ่มหุ้นกลุ่ม Domestic ที่กำลังมีพัฒนาการทางบวก+ High Yield และน่าจะเป็นเป้าหมายกองทุนวายุภักษ์ อาทิ ธนาคารจากรัฐยืนยันแนวทางลดค่าธรรมเนียม FIDF ช่วยชดเชยผลกระทบมาตรการแก้หนี้ที่ให้ธนาคารพักดอกเบี้ย 3 ปีลูกหนี้บางกลุ่ม กลุ่มสื่อสารที่อยู่ใน Upcycle และกลุ่ม Infra Tech ที่เป็น S Curve ใหม่ระยะกลางของไทย