มร.อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดต่ำลง และทำให้ราคาปรับสูงขึ้น ไม่เพียงมันสำปะหลังที่ใช้ผลิตผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ แต่ยังรวมถึงเมล็ดกาแฟ ที่ใช้ผลิตกาแฟสำเร็จรูปเบอร์ดี้ด้วย โดยเฉพาะมันสำปะหลัง มีการปรับราคาขึ้นจากช่วงก่อนหน้าอย่างมาก
ทำให้เบื้องต้น บริษัทได้ตัดสินใจปรับขึ้นราคาในส่วนของผงชูรส 4% ในขนาดบรรจุภัณฑ์ 4 ขนาด คือ 250 กรัม, 500 กรัม, 1 กิโลกรัม และ 3 กิโลกรัม โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้ 2 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป เฉพาะที่เป็นถุงบรรจุขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ขนาดที่ใช้ในครัวเรือนยังยืนราคาเดิม โดยการปรับขึ้นครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งขณะนั้นมีการปรับขึ้นราคาประมาณ 10% ขณะที่ผลิตภัณฑ์อื่นๆ บริษัทยังเน้นการบริหารจัดการเพื่อควบคุมต้นทุนไปก่อน
ทั้งนี้ กรมการค้าภายใน ระบุว่า สามารถปรับราคาได้เพราะไม่ใช่สินค้าควบคุม แต่ต้องทำหนังสือแจงปรับราคามายังกรม ในปัจจุบัน อายิโนะโมะโต๊ะ เป็นผู้นำตลาดผงชูรส ของประเทศไทย ที่ครองส่วนแบ่งการตลาด 93%