นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สำรวจโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการไทย ล่าสุดได้รับรายงานจากทูตพาณิชย์มิลาน ถึงโอกาสของอาหารไทยในตลาดอิตาลีและยุโรป ที่มีแนวโน้มการเติบโตดีขึ้น หลังพบว่าชาวอิตาเลียนมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารเอเชีย สูตรทำอาหารเอเชีย และร้านอาหารเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการหันมาบริโภคอาหารเอเชียเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของ HelloFresh ซึ่งเป็นบริษัทนานาชาติที่ดำเนินธุรกิจจำหน่ายชุดกล่องสูตรทำอาหารพร้อมส่งถึงบ้าน ให้ข้อมูลว่าการค้นหาอาหารเอเชียที่มาเป็นอันดับ 1 คือ อาหารจีนที่มีรสชาติเข้มข้น คิดเป็นสัดส่วน 57% ของการค้นหาข้อมูลอาหารทั้งหมด อันดับ 2 อาหารญี่ปุ่นที่มีความสมดุล คิดเป็นสัดส่วน 31% อันดับ 3 รสชาติเผ็ดร้อนของอาหารเกาหลี คิดเป็นสัดส่วน 7% และอันดับ 4 รสชาติที่จัดจ้านของอาหารไทย คิดเป็นสัดส่วน 5%
อย่างไรก็ตาม การค้นหาข้อมูลร้านอาหารเอเชียทางออนไลน์ล่าสุด มีการค้นหาร้านอาหารเกาหลีเพิ่มขึ้น 83% ซึ่งเป็นไปตามกระแสนิยมเกาหลี ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากอุตสาหกรรมบันเทิง หรือ Soft Power แซงหน้าการค้นหาร้านอาหารจีน ที่เพิ่มขึ้น 82% ส่วนร้านอาหารไทย เพิ่ม 50% แซงหน้าร้านอาหารญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น 22% ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี
ส่วนวัตถุดิบอาหารที่มีการค้นหามากที่สุด คือ เต้าหู้ ที่เป็นอาหารวีแกนหรืออาหารที่มีโปรตีนสูง มีการค้นหา 1.547 ล้านครั้ง และยังมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับซอส เช่น ซอสเผ็ดวาซาบิ ซอสเทอริยากิ และซอสพอนสึของญี่ปุ่น ซอสเปรี้ยวหวานของจีน และซอสหอยนางรมของไทย รวมทั้งมีการค้นหาส่วนผสม เช่น มิโซะ ที่มีถึง 6.5 แสนครั้ง และเครื่องปรุงรสของสูตรอาหารเกาหลีและญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ทำจากข้าวสาเกที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น ขนมปังแพนโกะ เกล็ดขนมปังสูตรญี่ปุ่น เป็นต้น
สำหรับสูตรอาหารที่มีการค้นหามากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ซูชิ ราเมง กิมจิ ผัดไทย และข้าวยำเกาหลี โดยผัดไทยติดอันดับ 4 และอันดับ 5 ในบางประเทศในยุโรป และมีเมนูติ่มซำ แทรกเข้ามาติดอันดับ 5 ในบางประเทศในยุโรปที่มีการค้นหาทางออนไลน์
ปัจจัยที่ทำให้อาหารเอเชียได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในตลาดอิตาลี และตลาดยุโรป เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวยังประเทศในเอเชีย รวมทั้งไทย ได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติอาหาร เมื่อกลับไปประเทศแล้ว ก็อยากจะกินอาหารเอเชียอีก และยังมีชาวเอเชียในอิตาลีเพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการอาหารเอเชียมากขึ้นตามไปด้วย และมีการวางจำหน่ายอาหารเอเชียในร้านค้าปลีกเอเชีย และซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เกิดความสะดวกในการซื้อสินค้า ทำให้มีการขยายตัวรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน พบว่า อาหารไทย เริ่มได้รับการกล่าวถึง และได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น และจำนวนร้านอาหารไทยในอิตาลี ก็มีการเปิดตามเมืองต่าง ๆ เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมนูผัดไทย เป็นเมนูที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเส้นผัดไทยมีความคล้ายคลึงกับเส้นพาสต้า หรือแม้กระทั่งแกงกะทิ เช่น แกงมัสมั่น แกงพะแนง และแกงเขียวหวาน ที่มีรสชาติกลมกล่อมไม่จัดจ้านจนเกินไป ก็เป็นที่ถูกปากชาวอิตาเลียน
“ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และทูตพาณิชย์ในอิตาลี ใช้โอกาสนี้ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอาหารไทย และโปรโมทร้านอาหารไทย โดยเฉพาะร้านอาหาร Thai SELECT อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ และกระตุ้นการบริโภคอาหารไทย รวมทั้ง ให้หาโอกาสให้ผู้ประกอบการอาหารไทยเข้าไปร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่สำคัญในอิตาลี เพื่อแนะนำสินค้าไทย และเชิญให้ผู้นำเข้าอิตาลีเดินทางมาร่วมงานแสดงสินค้าอาหารในไทยด้วย เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออก”นายภูมิธรรมกล่าว
