แชนแนล นิวส์ เอเชีย ซึ่งเป็นสื่อและสำนักข่าวชื่อดังของประเทศสิงคโปร์ รายงานว่า ในขณะนี้ได้เกิดอาชีพใหม่ในโลกสื่อโซเชียลของจีนด้วยการมีบุคคลทำการไลฟ์ขายสินค้าโดยนำเรื่องราวความรันทดของชีวิตส่วนตัวมานำเสนอสร้างเนื้อหา หรือ Content เพื่อทำให้ผู้ติดตามความเห็นอกเห็นใจ พร้อมไปกับการขายสินค้าออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า Misery Economy
นางหยาง หนิวฮวา อายุ 34 ปี ทำการไลฟ์ขายสินค้าของชาวจีนทั่วไปบนแพลทฟอร์มชื่อดังของจีนมีชื่อว่าโตหยิ่น Douyin หรือ TikTok ของจีน จนสามารถสร้างความโด่งดัง แต่ตกเป็นที่วิจารณ์ของคนจีนด้วยกัน เนื่องจากเธอได้นำเสนอเรื่องราวที่สุดรันทด หรือมีช่วงที่โหดร้าย หรือเลวร้ายซึ่งเกิดขึ้นจริงในชีวิตของเธอ โดยในปี 1995 หยาง หนิวฮวา ถูกลักพาตัวและถูกขายไปตั้งแต่ยังเด็ก วิธีดังกล่าวทำให้มีวันหนึ่งของการไลฟ์ขายของด้วยวิธีนี้ สามารถดึงดูดผูัชมมากกว่า 60,000 คน และทำยอดขายถึง 10 ล้านหยวน หรือประมาณ 45 ล้านบาท การไลฟ์สดในวันนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของหยาง จากผู้รอดชีวิตสู่ นักเคลื่อนไหว และเป็นดาวไลฟ์คนดังที่มีผู้ติดตามเกือบ 3 ล้านคน
ผู้ชมเรื่องของหยาง หนิวฮวา กลับแตกเป็นสองฝ่ายชัดเจน ฝ่ายหนึ่งชื่นชมความกล้าหาญและความไม่ย่อท้อของเธอ อีกฝ่ายหนึ่งกล่าวหาว่าเธอ กำลังหาใช้ผลประโยชน์จากอดีตของตัวเอง และ พยายามปั้นตัวเองให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์
นักวิชาการในจีนเรียกการไลฟ์ขายสินค้าของนางหยาง หนิวฮวา ว่าเป็นการทำเงินจากความรันทด และชีวิตน่าสงสาร หรือ Misery Economy วิธีนี้กำลังเป็นฮิตในวงการไลฟ์ขายสินค้าในจีน ไลฟ์สตรีมเมอร์จำนวนมากเรียนรู้ที่จะใช้อัลกอริทึมที่ให้รางวัลกับการมีส่วนร่วมทางอารมณ์ของผู้ชมด้วยการเน้นความเศร้า ความสงสาร และความเห็นอกเห็นใจให้กลายเป็นโอกาสสร้างรายได้ นั่นหมายถึงการทำให้คนใจบุญซื้อสินค้าของเธอ
นักวิชาการจีนเตือนว่า แม้เรื่องหยาง หนิวฮวาเป็นเรื่องจริงก็ตาม แต่เมื่อกลายเป็นกระแสนิยมใหม่จนมีการทำตามกันมากขึ้น ผู้ชมจะชินชา ทำให้คนที่ชีวิตรันทดจริงจนต้องหันมาไลฟ์ขายสินค้า จะทำให้ขายสินค้าไม่ได้ ที่น่ากังวล คือ การทำแบบนี้ยัมิจเป็นช่องนช่องทางให้มิจฉาชีพเห็นโอกาส สามารถสร้างเรื่องราวรันทดจอมปลอมขึ้นมาไลฟ์ขายสินค้าด้วย เช่น มิจฉาชีพจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความเจ็บป่วยหนัก ธุรกิจล้มเหลว หรือชีวิตแต่งงานพังทลาย แล้วเปลี่ยนเป็นคอนเทนต์เพื่อหลอกขายสินค้ากับผู้ใจบุญที่รับชมไลฟ์
แอชลีย์ ดูดาเรน็อก ผู้ก่อตั้งบริษัทวิจัยการตลาดจีน เปิดเผยว่า เมื่อปีที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีน นำเสนอรายงานแฉเน็ตไอดอลจีนคนหนึ่งอ้างว่ามีชีวิตสุดรันทด ถูกพ่อแม่ทิ้ง ยายที่เลี้ยงมาก็ตาย พี่สาวที่สู้ชีวิตด้วยกันมาก็มาตายจากเหตุไฟไหม้ ส่วนแม่ที่กลับมาคืนดีกันก็ป่วยทางจิต เพื่อเรียกความสงสารและเพิ่มยอดขายสินค้า
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวนี้กลายเป็นเรื่องโด่งดังแต่ตำรวจจีนทำการสืบสวน จนปรากฏว่าทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก เธอถูกจับกุมฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าถูกหักหลัง และทำให้สังคมชินชาจนเมื่อเรื่องราวทำนองนี้มีมากเกินไป สิ่งที่เคยน่าเศร้า ก็ไม่รู้สึกน่าเศร้าอีกต่อไป