ฮอนด้า มอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่นในแง่ยอดขายทั่วโลก กำลังเผชิญกับการร่วงหล่นจากอันดับ 2 มาอยู่อันดับ 4 ของผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น เนื่องจากฮอนด้า มอเตอร์ ทบทวนและปรับลดเป้าหมายยอดขายรถยนต์ทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2025 หรือระหว่างตุลาคม 2025 ถึงมีนาคม 2026 มาอยู่ที่ 1.66 ล้านคัน หรือลดลงจากเป้าเดิมมากถึง 14% ส่งผลให้ค่ารถยนต์ฮอนด้ามีแนวโน้มจะหล่นจาก 3 อันดับแรกของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นนับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หรือนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2005 เป็นต้นมา
สาเหตุจากกำลังการผลิตรถยนต์ฮอนด้าในตลาดอเมริกาเหนือลดต่ำลงมากจากภาวะการขาดแคลนไมโครชิพในการผลิตรถยนต์ ฮอนด้าเป็นค่ายรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาของบริษัทเน็กซ์พีเรีย ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีนที่ผลิตไมโครชิพรถยนต์ในประเทศเนเธอร์แลนดื ที่ต้องยุติการผลิตและส่งมอบไมโครชิพจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์มาเป็นเวลาหลายเดือน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวพึ่งคลี่คลายลงในระดับหนึ่ง
ขณะที่ซูซูกิ มอเตอร์ กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่นในแง่ยอดขายทั่วโลก หลังจากคาดการณ์ว่าตัวเลขยอดขายรถยนต์ซูซูกิทั่วโลกใน 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2025 จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้น 8% จากเป้าหมายคาดการณ์เดิม
ตลาดรถยนต์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือถือเป็นตลาดที่สำคัญอย่างมาก เนื่องจากยอดขายส่วนใหญ่ของฮอนด้า ซึ่งมากถึง 50% ของยอดขายทั่วโลกราว 1.68 ล้านคันมาจากภูมิภาคนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2025 ฮอนด้ามียอดขายรถยนต์จากภูมิภาคอเมริกาเหนือที่ 856,000 คัน ปัญหาการขาดแคลนไมโครชิพดังกล่าวส่งผลให้ผลกำไรของฮอนด้าได้รับผลกระทบลดลงมากถึง 150,000 ล้านเยน หรือ 956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 31,070 ล้านบาท นั่นหมายถึงตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานตลอดทั้งปีงบประมาณ 2025 ของฮอนด้าจะหดหายถึง 55% มาเหลืออยู่ที่ 550,000 ล้านเยน หรือกว่า 110,000 ล้านบาท
