เขียวสดใส! ตลาดหุ้นสหรัฐปิดคึกคักต่อเนื่อง ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำนิวไฮครั้งที่ 25

เขียวสดใส! ตลาด หุ้น สหรัฐ ปิดคึกคักต่อเนื่อง ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำนิวไฮครั้งที่ 25

ตลาดหลักทรัพย์ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2024 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 38,807 จุด +96 จุด หรือ +0.25% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 5,354 จุด +62 จุด หรือ +1.18% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ 17,187 จุด +330 จุด หรือ +1.96% ส่งผล ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่เป็นครั้งที่ 25 และทำสถิติสูงสุดระหว่างวันเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ที่ระดับ 5,354.16 จุด นอกจากนี้ ดัชนีหุ้นนาสแดคปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ด้วย

ในสัปดาห์ผ่านไป ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน -0.98%, -0.5% และ -1.1% ตามลำดับ ส่งผลหยุดดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดคทำสถิติดัชนีหุ้นรายสัปดาห์ปิดเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 3 เดือน หรือตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นมา ในเดือนพฤษภาคม พบว่าดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดสวนทางกัน +2.3%, +4.8% และ +6.8% ตามลำดับ ทั้ง 3 ดัชนีหุ้นปิดขึ้น 6 เดือนติดต่อกัน

สาเหตุจากนักลงทุนเก็บหุ้นบริษัทเอ็นวีเดีย บริษัทผลิตไมโครชิปชื่อดังระดับโลก และหุ้นบริษัทลูลูเลมอน ซึ่งผลิตเสื้อผ้าชุดกีฬาระดับพรีเมี่ยม ที่มีผลประกอบการออกมาดีตามที่คาดการณ์ไว้ เพื่อเดิมพันตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่เกี่ยวข้องกับภาวะจ้างงานหลายตัวซึ่งจะประกาศในสัปดาห์นี้ เริ่มจากในวันพุธตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดหมาย ในวันศุกร์นี้จะประกาศการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤษภาคม

ตัวชี้วัดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่เรียกว่า เฟดวอช์ท พบว่า โอกาสเริ่มปรับลดดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% ของเฟดในการประชุมเดือนกันยายนลดลงมาอยู่ที่ 62% จากเดิมที่ระดับ 52%

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ทำสถิติทั้งในรายไตรมาส และรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 โดยในรายไตรมาสนั้น ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดเพิ่มขึ้น +7.4%, +10.2% และ +9.1% ตามลำดับ ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 5 ปี หรือตั้งแต่ปี 2019 และดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดไตรมาสที่ 1 ปีนี้ดีที่สุดในรอบ 3 ปี หรือตั้งแต่ปี 2021 สอดรับกับรายเดือน ปิดเพิ่มขึ้น +2.1%, +3.1% และ +1.8% ตามลำดับ

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles