นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท วันนี้เปิดที่ระดับ 33.55 บาทต่อดอลลาร์ “ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.05-33.80 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) แกว่งตัวในกรอบ Sideways (แกว่งตัวในกรอบ 33.49-33.63 บาทต่อดอลลาร์) สอดคล้องกับทิศทางการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways ของทั้งเงินดอลลาร์และราคาทองคำด้วยเช่นกัน หลังผู้เล่นในตลาดต่างรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และผลประกอบการของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งจะทยอยรับรู้ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีส่วนกดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้าง และช่วยหนุนให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) สามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นเหนือโซน 3,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งภาพดังกล่าวก็พอช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้บ้าง ทำให้เงินบาทยังคงแกว่งตัวแถวโซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์
แนวโน้มค่าเงินบาท
ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.40-33.65 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มค่าเงินบาท เสี่ยงทยอยอ่อนค่าลง “Sideways Up” ท่ามกลางแรงกดดันจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับบรรดานักลงทุนต่างชาติ ส่วนราคาทองคำอาจยังอยู่ในช่วงการพักฐานต่อ ทว่าบรรยากาศเปิดรับความเสี่ยงของตลาด อาจหนุนให้บรรดานักลงทุนต่างชาติทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยได้
ขณะที่เงินดอลลาร์นั้น มองว่า อาจพอได้แรงหนุน หากตลาดการเงินสหรัฐฯ ยังอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (ซึ่งอาจกดดันเงินเยนญี่ปุ่นไปพร้อมกัน) โดยต้องรอลุ้นรายงานผลประกอบการบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ทั้งนี้ เงินดอลลาร์เสี่ยงผันผวนสูง ขึ้นกับรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ว่าจะออกมาในทิศทางใด