นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ เปิดที่ระดับ 33.82 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ 33.88 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) ได้ทยอยแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ในลักษณะ Sideways Down (กรอบการเคลื่อนไหว 33.80-33.94 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทยังคงได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าตามการทยอยปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ(XAUUSD) เกิน +20 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เข้าใกล้โซน 2,720 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ซึ่งราคาทองคำยังพอได้แรงหนุนจากความหวังว่า เฟดอาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้ ตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน ที่ออกมา +0.3% จากเดือนก่อนหน้า และแม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง หลังรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ทว่าเงินดอลลาร์ก็สามารถทยอยรีบาวด์ขึ้นได้ ก่อนที่จะแกว่งตัว Sideways ใกล้ระดับก่อนรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI หนุนโดยการทยอยปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินสหรัฐฯ รวมถึงความกังวลต่อแนวโน้มการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ และปริมาณการออกบอนด์ของสหรัฐฯ ในช่วงระยะสั้น
สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways หลังผู้เล่นในตลาดคาดหวังแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมอย่างเต็มที่แล้ว (Fully Priced-In) ทำให้ ต้องรอจับตาปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินดอลลาร์ ผ่านบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินยูโร (EUR) หาก ECB เดินหน้าลดดอกเบี้ยตามคาด
อย่างไรก็ดี หาก ECB ลดดอกเบี้ยตามคาด และส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง หลังเศรษฐกิจยูโรโซนมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่องจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่รออยู่ในปีหน้า ก็อาจกดดันให้เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลงเล็กน้อย หรืออาจเพียงแค่แกว่งตัว Sideways
นอกจากนี้ ควรจับตาทิศทางเงินเยนญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน หลังในช่วงที่ผ่านมาเงินเยนญี่ปุ่นได้ทยอยอ่อนค่าลง ตามมุมมองผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ไปก่อน ขณะเดียวกัน เงินบาทก็อาจเคลื่อนไหวไปตามแนวโน้มเงินหยวนจีน (CNY) และทิศทางราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อย่าง ทองคำ ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้อย่างชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ปัจจัยใหม่ ทำให้โซนแนวต้านของเงินบาทก็ยังอยู่ในช่วง 33.60-33.70 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวต้านยังคงมีโซนที่สำคัญแถว 33.90-34.00 บาทต่อดอลลาร์