เงินบาทสัปดาห์นี้มีโอกาสแตะ 37 บาท จับตาปัจจัยทางการเมืองของไทย ฟันด์โฟลว์ ดอกเบี้ย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาท แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 36.94 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ตามภาพรวมของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียที่อ่อนค่าลงท่ามกลางแรงหนุนต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ฯ จากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งอาจทำให้จังหวะการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดเลื่อนออกไป อย่างไรก็ดี เงินบาททยอยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนในระหว่างสัปดาห์ หลังจากเงินดอลลาร์ฯ กลับมาเผชิญแรงขายตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ทั้งในช่วงก่อนและหลังการประชุมเฟด ประกอบกับเงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยลบจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และข้อมูลจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางเงินเยน ซึ่งอ่อนค่าลงหลัง BOJ มีมติคงดอกเบี้ยและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นที่ระดับเดิม ขณะที่แผนการลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นนั้น แม้ BOJ จะมีการส่งสัญญาณเตรียมดำเนินการ แต่ก็จะเปิดเผยรายละเอียดในการประชุมเดือนก.. อีกครั้ง

ทั้งนี้ การประชุมนโยบายการเงินของไทยและสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ ออกมาคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมตามที่ตลาดคาด โดย กนง. มีมติ 6:1 เสียงให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% ขณะที่เฟดมีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่กรอบ 5.25-5.50% และมีการปรับเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายผ่าน dot plot มาสะท้อนโอกาสการลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้  

ในวันศุกร์ที่ 14 มิ.. 2567 เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 36.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 มิ.. 67) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 10-14 มิ.. 2567 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 9,376 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 3,661 ล้านบาท (ขายสุทธิพันธบัตรไทย 3,358 ล้านบาท และตราสารหนี้หมดอายุ 303 ล้านบาท)

ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ (17-21 มิ..) อยู่ที่ระดับ 36.50-37.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ปัจจัยทางการเมืองของไทย และสัญญาณเกี่ยวกับดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนมิ.. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.. รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.. และผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนพ.. และการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของจีน รวมถึงดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนมิ.. ของญี่ปุ่นอังกฤษยูโรโซนและสหรัฐฯด้วยเช่นกัน

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles