นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้เปิดที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน 31.85 บาทต่อดอลลาร์ (แกว่งตัวในกรอบ 31.60-31.83 บาทต่อดอลลาร์) หลังเฟดมีมติลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 4.00-4.25% ตามที่ตลาดคาด ทว่า คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot ใหม่ของเฟด กลับสะท้อนว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดหวังไว้ (จำนวนการลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2025 2026 2027 คือ 3-1-1 ขณะที่ตลาดประเมิน 3-3-0) อีกทั้งเฟดก็ไม่ได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ แย่ลงอย่างมีนัยสำคัญ
สอดคล้องกับถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ที่ระบุว่า การลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ ถือเป็น การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ชะลอตัวลงมากขึ้น พร้อมย้ำจุดยืนของเฟดที่จะพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบขึ้นกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ โดยไม่มี Preset Path ของแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย และการดำเนินงานของเฟดก็มีความเป็นกลาง ไม่ขึ้นกับอิทธิพลทางการเมือง ซึ่งภาพดังกล่าวได้ส่งผลให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกดดันให้ ราคาทองคำปรับตัวลดลง ส่วนเงินบาทก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง
แนวโน้มค่าเงินบาท มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.75-32.00 บาทต่อดอลลาร์ โดยการลดดอกเบี้ยของเฟดจาก Dot Plot ล่าสุด ที่น้อยกว่า ความคาดหวังของตลาด อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทยอยรีบาวด์สูงขึ้นได้บ้าง ตามที่เราได้ประเมินในวันก่อนหน้า ซึ่งภาพดังกล่าว จะสามารถกดดันราคาทองคำ และเงินบาทได้ในระยะสั้น จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
ด้านกลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.75-31.90 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติลดดอกเบี้ย 25 bps มาอยู่ที่ 4.00-4.25% และส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าพร้อมปรับนโยบายในระยะข้างหน้าตามเศรษฐกิจ ทำให้ Yields สูงขึ้น ดัชนีเงินดอลลาร์แข็งค่า
ธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนนโยบาย หากสถานการณ์เศรษฐกิจเปลี่ยนแปลง แม้อัตราดอกเบี้ยในขณะนี้จะถือว่าเหมาะสมแล้วก็ตาม
ทริสเรทติ้ง (Tris Rating) ได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ขึ้นจาก 1.8% เป็น 2.1%