ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.40 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อปลายสัปดาห์ ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์
โดย ดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากการที่นักลงทุนกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านนโยบายภาษีที่จะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ และความไม่แน่นอนของนโยบายการปรับลดดอกเบี้ยของ FED อาจฉุดภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงิน EUR เมื่อเทียบกับ USD จะยังคงมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ของไทย และตัวเลขเงินเฟ้อในฝั่งสหรัฐ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ สถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ทั้งนี้นักวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
โดย สถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,338 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,495 ล้านบาท คาดว่า่กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำอยู่ที่ 32.30 – 32.60 บาทต่อดอลลาร์ แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30 /ขาย 32.60 บาทต่อดอลลาร์
ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหว Sideways หลังมีรายงานข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราใหม่ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม แต่ภาษีใหม่จะมีผลใช้ในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ขณะที่ ไทยได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ใหม่ โดยจะนำเข้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้าลง 70% ภายใน 5 ปี และการที่ OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นไปอีก 5.48 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ราคาน้ำมันลดลง
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.40 บาทต่อดอลลาร์ ใกล้เคียงกับราคาปิดตลาดเมื่อปลายสัปดาห์ ที่ระดับ 32.37 บาทต่อดอลลาร์
โดย ดอลลาร์ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก จากการที่นักลงทุนกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านนโยบายภาษีที่จะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 9 ก.ค. นี้ และความไม่แน่นอนของนโยบายการปรับลดดอกเบี้ยของ FED อาจฉุดภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่ค่าเงิน EUR เมื่อเทียบกับ USD จะยังคงมีทิศทางแข็งค่าต่อเนื่อง
ปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ของไทย และตัวเลขเงินเฟ้อในฝั่งสหรัฐ มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐ สถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ทั้งนี้นักวิเคราะห์ยังคงให้น้ำหนักต่อการปรับลดดอกเบี้ยของ FED ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
โดย สถานะการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,338 ล้านบาท และขายสุทธิพันธบัตรไทย 1,495 ล้านบาท คาดว่า่กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำอยู่ที่ 32.30 – 32.60 บาทต่อดอลลาร์ แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30 /ขาย 32.60 บาทต่อดอลลาร์
ด้าน กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.35-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทเคลื่อนไหว Sideways หลังมีรายงานข่าวว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมส่งจดหมายเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราใหม่ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม แต่ภาษีใหม่จะมีผลใช้ในเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
ขณะที่ ไทยได้ยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ใหม่ โดยจะนำเข้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อลดการเกินดุลการค้าลง 70% ภายใน 5 ปี และการที่ OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันตั้งแต่เดือนสิงหาคม เป็นต้นไปอีก 5.48 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ราคาน้ำมันลดลง