เงินบาท เปิดตลาดวันนี้ขยับแข็งค่าขึ้น หลังดอลลาร์อ่อน ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐทยอยออกมาไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ส่งแรงขายทำกำไร

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาท วันนี้ เปิดที่ระดับ 34.29 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.00-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.20-34.40 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับ แนวโน้มค่าเงินบาท ประเมินว่า การพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้เปิดโอกาสให้เงินบาทสามารถทยอยแข็งค่าขึ้นได้บ้าง โดยเฉพาะหากเงินดอลลาร์ สามารถทยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในกรณีที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่จะทยอยประกาศออกมานั้น ไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจมีการทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USD ตามธีม US Exceptionalism ออกมาบ้าง (ในปีนี้ เงินดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้นกว่า +6%) ขณะที่ ราคาทองคำมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นต่อได้บ้าง แต่อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่ต่างก็รอจังหวะทยอยขายทำกำไรสถานะ Long ทองคำ ที่ทำผลตอบแทนได้โดดเด่นในปีนี้

ส่วน ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ อาจเริ่มเห็นการทยอยเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยได้บ้าง หรือ อย่างน้อยแรงขายสินทรัพย์ไทยก็ควรจะลดลงจากช่วงสัปดาห์ก่อนๆ พอสมควร ลดแรงกดดันต่อเงินบาทได้

ด้านทิศทางเงินดอลลาร์มีแนวโน้มย่อตัวลงได้บ้าง หรืออย่างน้อยก็แกว่งตัวใน Sideways โดยต้องจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงจับตาการเคลื่อนไหวของบรรดาสกุลเงินหลัก

ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท(USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (แกว่งตัวในกรอบ 34.17-34.47 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังอัตราเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core PCE ออกมาต่ำกว่าคาดเล็กน้อย ที่ระดับ 2.4% และ 2.8% ตามลำดับ นอกจากนี้ ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนธันวาคม รวมถึงอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะสั้นและระยะยาวจากรายงานเดียวกันนั้น ก็ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ดังกล่าว ได้หนุนให้ ราคาทองคำ (XAUUSD) สามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นราว +30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่โซน 2,620-2,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรการรีบาวด์ขึ้นบ้างของราคาทองคำ และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเช่นกัน

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากทั้งการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงหนักของราคาทองคำ หลังเฟดส่งสัญญาณชะลอการลดดอกเบี้ยชัดเจน ทว่า เงินบาทยังพอได้แรงหนุนจากแรงซื้อบอนด์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ แรงขายเงินดอลลาร์จากบรรดาผู้เล่นในตลาด รวมถึงการพลิกกลับมาย่อตัวลงบ้างของเงินดอลลาร์ในช่วงปลายสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์นี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ในสัปดาห์สุดท้ายของปี

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles