ตลาดซื้อขายค่าเงินบิทคอยน์ในเอเชีย รายงานว่า วันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 เวลา 9.50 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือตรงกับเวลา 8.50 น. เวลาไทย พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 87,135 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,831,887 บาท ร่วงลง -2,055.47 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 66,802 บาทต่อบิทคอยน์กว่า หรือ -2.30% ต่อบิทคอยน์ ทำสถิติค่าเงินบิตคอยน์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2025 ที่ผ่านมาหรือในรอบ 7 เดือน
ค่าเงินบิทคอยน์ที่ยังคงตกต่ำในตลาดเอเชียเช้าวันนี้เป็นผลต่อเนื่องจากคืนที่ผ่านมา ตลาดซื้อขายค่าเงินบิทคอยน์ นิวยอร์ก รายงานว่า วันที่ 20 พฤศจิกายน 2025 ตามเวลานิวยอร์ก ค่าเงินบิทคอยน์เคลื่อนไหวที่ระดับ 86,325.81 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,805,588 บาทต่อบิทคอยน์ ทำสถิติค่าเงินบิตคอยน์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2025 ที่ผ่านมาหรือในรอบ 7 เดือน
ในปัจจุบัน มูลค่าของตลาดเงินบิทคอยน์ทั่วโลกเสียหายมาถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 32.5 ล้านล้านบาท เนื่องจากมูลค่าของตลาดเงินบิตคอยน์ในวันที่ 6 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 139.8 ล้านล้านบาท ดำดิ่งลงเมื่อเหลือเพียง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 104 ล้านล้านบาทในคืนผ่านมา
ค่าเงินบิทคอยน์ถูกกระหน่ำเทขายอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์นี้ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2025 ค่าเงินบิทคอยน์ในนิวยอร์ก เคลื่อนไหวที่ระดับ 91,826.70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,984,367 บาทต่อบิทคอยน์ ร่วงลง -2,443 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 79,400 บาทต่อบิทคอยน์กว่า หรือ -2.59% อย่างไรก็ตาม เน้นบิตคอยน์ดำดิ่งลึกสุดระหว่างวันลงแตะที่ระดับ 91,165.32 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,962,672 บาทต่อบิทคอยน์
นักวิเคราะห์ในตลาดเงินคริปโตเคอร์เรนซีในสหรัฐอเมริกา ประเมินว่าแรงส่งด้านลบที่มีต่อค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งถูกเทขายอย่างหนาตาต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้วมาถึงในสัปดาห์นี้ อาจมีลุ้นว่าเงินบิทคอยน์จะดำดิ่งลงจนถึงระดับ 80,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อบิทคอยน์ ในปัจจุบันมูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์เสียหายไปมากถึง 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือกว่า 19.5 ล้านล้านบาท เบื่อเปรียบเทียบกับการบิทคอยน์ที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ในวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา
สาเหตุจากนักลงทุนยังคงขาดความมั่นใจและอยู่ในภาวะเทขายเงินบิทคอยน์ลงต่อเนื่องท่ามกลางปัจจัยลบของภาวะตลาดทุนในสหรัฐอเมริกาที่นักลงทุนล้วนแห่เทขายทั้งตลาดหุ้น ตลาดทองคำ และตลาดตราสารหนี้นิวยอร์ก ซึ่งเป็นผลจากความกังวลมากขึ้นที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด ส่งสัญญาณชัดเจนว่า โอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 9 ถึง 10 ธันวาคมนี้ มีน้อยลงมาก