คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลตฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า วันนี้ 11 พฤศจิกายน 2024 เวลา 16.00 น. ตามเวลาสิงคโปร์ หรือ 15.00 น. ตามเวลาไทย พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีพุ่งขึ้นแตะสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 81,899 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,866.465 บาทต่อบิทคอยน์ พุ่งขึ้น +6.2% ก่อนจะลดลงเล็กน้อยมาเคลื่อนไหวปิดที่ระดับ 81,550 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,854.250 บาทต่อบิทคอยน์ ส่งผลทำสถิติราคาปิดสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของเอเชียและของโลก
ในช่วงเช้าเปิดตลาดในเอเชีย พบว่า เงินบิทคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับ 81,497 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,852,395 บาทต่อบิทคอยน์ พุ่งขึ้น +6.1% ส่งผลไม่เพียงทำสถิติแตะหลัก 81,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก แต่ยังมีสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ของเอเชียและของโลก
ในคืนผ่านมา คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) รายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2024 ตามเวลานิวยอร์ก สหรัฐ พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซี พุ่งขึ้นแตะระดับ 80,092 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,803,220 บาทต่อบิทคอยน์ พุ่งขึ้น +4.7% ส่งผลไม่เพียงทำสถิติแตะหลัก 80,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก แต่ยังมีสถิติสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ครั้งใหม่
ที่น่าสนใจ คือ นับตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 มาถึงคืนผ่านมา เงินบิทคอยน์เพิ่มขึ้นกว่า +20% นอกจากนี้ ยังพุ่งทะยานสูงถึง +69.4% เมื่อเทียบกับสถิติเงินบิทคอยน์ที่ลงต่ำสุดในรอบปีนี้ที่ระดับ 38,505 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,347,675 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2024 ที่สำคัญ เงินบิทคอยน์พุ่งกระฉูดถึง 94% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงในคืนผ่านมา
สาเหตุจากชัยชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกตอกย้ำอีกครั้ง ในคืนผ่านมา รัฐแอริโซนาประกาศผลคะแนน พบว่านายทรัมป์ได้คะแนนส่วนใหญ่ในรัฐแอริโซนาอย่างเป็นทางการ ส่งผลนายทรัมป์ชนะครบทั้ง 7 รัฐสวิงในการเลือกตั้งปีนี้อย่างเป็นทางการ ทำให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งของนายทรัมป์แตะ 312 คะแนน ขณะที่นางแฮร์ริสได้ 226 คะแนน
นอกจากนี้ ในช่วงการหาเสียงของนายทรัมป์นั้น ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ประกาศชัดเจนจะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่งเงินคริปโทเคอร์เรนซีของจักรวาลนี้ ซึ่งประกอบด้วยการสร้างสต็อกเงินบิทคอยน์ไว้ใช้ในเชิงกลยุทธ์ และแต่งตั้งการกำกับดูแลเงินบิทคอยน์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสินทรัพย์ดิจิตอล
ปัจจัยวงจรดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอยู่ในข่วงขาลงในปีนี้ รวมถึงการเข้าลงทุนของนักลงทุนในหน่วยลงทุนเงินบิทคอยน์ หรืออีทีเอฟบิทคอยน์ อย่างคึกคักและต่อเนื่องนับตั้งแต่กลต.สหรัฐอเมริกาอนุมัติการซื้อขายอีทีเอฟบิทคอยน์เมื่อต้นปีนี้เป็นต้นมา
ย้อนกลับไปเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2024 พบว่า เงินบิทคอยน์รายเดือนสุทธิดำดิ่งถึง -11.5% ทำให้เป็นค่าเงินบิทคอยน์ปิดลดลงเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องจากในช่วง 3 เดือนในเวลานั้น ที่สำคัญ ยังเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เมษายนของปี 2024 นี้ เมื่อย้อนดูสถิติค่าเงินบิทคอยน์เฉพาะเดือนสิงหาคมของทุกปี นับตั้งแต่ปี 2013 มาถึงปี 2024 พบว่า โดยเฉพาะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ในช่วงเวลา 11 ปีนั้น มีเดือนสิงหาคมเพียง 4 เดือนที่เพิ่มขึ้น คือ สิงหาคมปี 2017 ทะยาน +65.3% สิงหาคมปี 2013 พุ่ง +30.4% สิงหาคมปี 2021 เพิ่มขึ้น +13.8% และสิงหาคมปี 2020 กระเตื้องขึ้น +2.8% นอกนั้นให้ผลตอบแทนติดลบ โดยเดือนสิงหาคมคมในปี 2015 และ 2014 ทรุดถึง -18.7% และ -17.6% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการติดลบในเดือนสิงหาคมช่วง 2 ปีติดกันครั้งแรกในรอบ 11 ปี
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมนั้น เงินบิทคอยน์ทรุดแรงกว่า -20% เมื่อเทียบจากสถิติเงินบิทคอยน์สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อ 5 เดือนผ่านมาที่ระดับ 73,798 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,582,930 บาทต่อบิทคอยน์ ลดลง -15,698 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 549,430 บาท หรือ -21.27% ยังคงเป็นภาวะหมี (Bear Market) ของเงินบิทคอยน์นับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมมาถึงปัจจุบัน
