คอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) แพลตฟอร์มรายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า วันที่ 16 ธันวาคม 2024 เมื่อเวลา 9.10 น. เวลาไทย พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีซื้อขายในเอเชียเคลื่อนไหวสูงสุดระดับ 106,533 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,638,102 บาทต่อบิทคอยน์ หรือกว่า +6.00% ก่อนจะลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 105,151.85 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,590,935 บาท เพิ่มขึ้น +4,223.70 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 144,240 บาท หรือ +4.18%

สาเหตุจากว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคน 47 นายโดนัลด์ทรัมกล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐชุดใหม่มีแผนที่จะก่อตั้งเงินเงินบิทคอยน์สำรองเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งมีลักษณะไม่แตกต่างจากน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐ นับตั้งแต่สิ้นสุดวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนมาถึงวันนี้ พบว่าค่าเงินบิทคอยน์พุ่งทะยานขึ้นสูงมากกว่า 50% ส่งผลให้มูลค่าของตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีนับตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าโดยมีมูลค่ามากกว่า 3.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 130 ล้านล้านบาท

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมผ่านมาคอยน์เมททริกซ์ (Coin Metrics) รายงานค่าเงินคริปโทเคอร์เรนซี รายงานว่า วันที่ 5 ธันวาคม 2024 เมื่อเวลา 14.00 น. เวลาไทย พบว่า ค่าเงินบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุดในตลาดเงินคริปโทเคอร์เรนซีซื้อขายในเอเชียเคลื่อนไหวสูงสุดระดับ 103,619 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,543,770 บาทต่อบิทคอยน์ หรือ +6.92% ก่อนจะลงมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 101,933 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3,486,110 บาท นอกจากนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ทำสถิติแตะหลัก 100,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งประวัติศาสตร์ด้วย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนผ่านมา เป็นวันแรกและครั้งแรกที่แตะหลัก 99,000 ดอลลาร์สหรัฐ

นับตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 มาถึงเช้าวันนี้ 16 ธันวาคม 2024 ในเอเชีย พบว่าเงินบิทคอยน์เพิ่มขึ้นกว่า +50% นอกจากนี้ เงินบิทคอยน์ยังพุ่งทะยานสูงถึง +68,028 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,323,156 บาท หรือทะยานกว่า +176.6% เมื่อเทียบกับสถิติเงินบิทคอยน์ที่ลงต่ำสุดในรอบปีนี้ที่ระดับ 38,505 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,347,675 บาทต่อบิทคอยน์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2024 ที่สำคัญ เงินบิทคอยน์พุ่งกระฉูดถึง +149.50% นับตั้งแต่ต้นปีนี้มาถึงในคืนผ่านมา ส่งผลมูลค่าตลาดเงินบิทคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับ 2.076 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 71.2 ล้านล้านบาท

นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ นายเจอโรม พาวเวล กล่าวในงานประชุมเศรษฐกิจมีชื่อว่า ดีลบุ๊ค ว่า เงินบิทคอยน์ไม่แตกต่างอะไรจากทองคำแท่ง ยกเว้นแค่เป็นทองคำในรูปดิจิทัล เงินบิทคอยน์ไม่ใช่คู่แข่งกับเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่เป็นคู่แข่งของทองคำแท่งแท้จริง ในช่วงการหาเสียงของนายทรัมป์นั้น ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ประกาศชัดเจนจะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นเมืองหลวงแห่งเงินคริปโทเคอร์เรนซีของจักรวาลนี้ ซึ่งประกอบด้วยการสร้างสต็อกเงินบิทคอยน์ไว้ใช้ในเชิงกลยุทธ์ และแต่งตั้งการกำกับดูแลเงินบิทคอยน์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสินทรัพย์ดิจิทัล

ปัจจัยวงจรดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐอยู่ในข่วงขาลงในปีนี้ รวมถึงการเข้าลงทุนของนักลงทุนในหน่วยลงทุนเงินบิทคอยน์ หรืออีทีเอฟบิทคอยน์ อย่างคึกคักและต่อเนื่องนับตั้งแต่กลต.สหรัฐอเมริกาอนุมัติการซื้อขายอีทีเอฟบิทคอยน์เมื่อต้นปีนี้เป็นต้นมา

ย้อนกลับไปเมื่อสิ้นสุดเดือนสิงหาคม 2024 พบว่า เงินบิทคอยน์รายเดือนสุทธิดำดิ่งถึง -11.5% ทำให้เป็นค่าเงินบิทคอยน์ปิดลดลงเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องจากในช่วง 3 เดือนในเวลานั้น ที่สำคัญ ยังเป็นเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 4 เดือน หรือนับตั้งแต่เมษายนของปี 2024 นี้ เมื่อย้อนดูสถิติค่าเงินบิทคอยน์เฉพาะเดือนสิงหาคมของทุกปี นับตั้งแต่ปี 2013 มาถึงปี 2024 พบว่า โดยเฉพาะเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ในช่วงเวลา 11 ปีนั้น มีเดือนสิงหาคมเพียง 4 เดือนที่เพิ่มขึ้น คือ สิงหาคมปี 2017 ทะยาน +65.3% สิงหาคมปี 2013 พุ่ง +30.4% สิงหาคมปี 2021 เพิ่มขึ้น +13.8% และสิงหาคมปี 2020 กระเตื้องขึ้น +2.8% นอกนั้นให้ผลตอบแทนติดลบ โดยเดือนสิงหาคมคมในปี 2015 และ 2014 ทรุดถึง -18.7% และ -17.6% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการติดลบในเดือนสิงหาคมช่วง 2 ปีติดกันครั้งแรกในรอบ 11 ปี

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมนั้น เงินบิทคอยน์ทรุดแรงกว่า -20% เมื่อเทียบจากสถิติเงินบิทคอยน์สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์เมื่อ 5 เดือนผ่านมาที่ระดับ 73,798 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,582,930 บาทต่อบิทคอยน์ ลดลง -15,698 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 549,430 บาท หรือ -21.27% ยังคงเป็นภาวะหมี (Bear Market) ของเงินบิทคอยน์นับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมมาถึงปัจจุบัน