กระทรวงการค้า ประเทศเกาหลีใต้ และสำนักวิจัยคาริสยูในเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เทสลา อินคอร์ปอเรชั่น ผู้ผลิตแบรนด์รถไฟฟ้า หรืออีวีหรูหราระดับโลกจากสหรัฐอเมริกัน มียอดขายรถเทสลาได้เพียง 1 คันในเดือนมกราคมที่ผ่านไป โดยเป็นรุ่นโมเดล Y หรือประเภทเอสยูวี ส่งผลทำสถิติยอดขายที่ตกต่ำและเลวร้ายที่สุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2022 เป็นต้นมา ซึ่งในห้วงเวลานั้นเป็นเดือนที่เทสลาไม่มียอดขายรถอีวีเลย ที่สำคัญ ยอดจดทะเบียนรถอีวีทั่วประเทศเกาหลีใต้ในเดือนมกราคม ปรากฏว่า ตกต่ำลงมากถึง -80% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา
สำหรับรถอีวีแบรนด์เทสลารุ่นโมเดล Y ที่ผลิตและนำเข้าจากโรงงานเทสลาในจีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นหนึ่งรถรุ่นและแบรนด์ที่ติดอันดับขายดีที่สุดในปีผ่านมาของเกาหลีใต้
ปัจจัยลบที่ฉุดการตัดสินใจและกำลังซื้อรถอีวีของผู้บริโภคในเกาหลีใต้ มาจากอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ภาวะเงินเฟ้อที่ทรงตัวระดับสูง ที่สำคัญ คือความปลอดภัยในการใช้รถอีวีโดยเฉพาะปัญหาไฟไหม้แบตเตอรี่รถอีวี และสถานีชาร์จไฟฟ้าแบบรวดเร็วมีจำนวนน้อยมาก นอกจากนี้ นายลี ฮังคู หัวหน้าสถาบันจีออนบุค (Jeonbuk) แห่งเทคโนโลยียานยนต์ เกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ผู้บริโภคโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้แสดงทัศนคติในทางลบต่อรถอีวีเทสลาเมื่อรู้ว่าเป็นรุ่นที่ผลิตจากโรงงานเทสลาในประเทศจีน โดยเฉพาะความกังวลและคำถามเกี่ยวกับคุณภาพการผลิตจากโรงงานในจีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้น จึงไม่สนใจที่จะซื้อรถอีวีแบรนด์เทสลา
อย่างไรก็ตาม นายลี ฮังคู กล่าวว่าในเดือนมกราคมของทุกปี ผู้บริโภคมักจะไม่ซื้อรถยนต์ในเดือนดังกล่าว ตลาดรถยนต์จะค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากผู้บริโภคมักจะรอคอยการประกาศมาตรการจูงใจในการอุดหนุนราคารถยนต์ สอดรับกับเทสลาในเกาหลีใต้ชี้แจงว่า ผู้บริโภคชะลอการซื้อรถเทสลาจนกว่าจะได้รับการยืนยันเกี่ยวกับมาตรการอุดหนุนราคาขาย
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2024 สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศเกาหลีใต้ หรือ KAMA เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีในประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2023 ผ่านไป ลดลงเหลือ 157,823 คัน หรือลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่สำคัญ เป็นยอดขายรถอีวีที่ทรุดลงครั้งแรกในรอบ 6 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา สาเหตุจากปัญหาความปลอดภัยในการใช้รถอีวี และสถานีชาร์จไฟฟ้าอย่างรวดเร็วที่มีจำนวนน้อยมาก นอกเหนือจาก ราคาขายรถอีวีที่ยังมีราคาสูง และและอัตราดอกเบี้ยที่อยู่สูงมาต่อเนื่อง
สำนักงานความปลอดภัยการขนส่งและการเดินทางเกาหลีใต้ หรือ KTSA เปิดเผยว่า ได้ทำการสำรวจกับผู้ใช้และเจ้าของรถอีวีในเกาหลีใต้ พบว่า ความกังวลใหญ่สุดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้รถอีวี คือ การเกิดไฟไหม้จากอุบัติเหตุรถอีวีชนกัน หรือเกิดไฟไหม้ขณะที่รถทำการชาร์จไฟฟ้า
ในปี 2022 รถตู้อีวีที่ชาร์จไฟฟ้าเต็มแบตเตอรี่แล้ว แต่สายชาร์จไฟฟ้ายังคงเสียบไว้อยู่กับเต้าชาร์จไฟฟ้าที่ตัวรถอีวี เกิดไฟลุกไหม้ลุกลามไปทั่วลานจอดรถยนต์ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองปูซาน กรุงโซล นอกจากนี้ในปี 2020 ผู้โดยสารที่อยู่ในรถอีวีที่มีโชเฟอร์ขับอยู่นั้น ได้เสียชีวิตลงเมื่อรถอีวีคันดังกล่าวเกิดไฟไหม้หลังจากเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับกำแพงในชั้นจอดรถใต้ดิน กรณีอุบัติดังกล่าวสร้างความกลัวไปถึงความกังวลให้กับชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยอยู่บนคอนโดมิเนียมสูง เนื่องจากจุดชาร์จไฟฟ้ารถอีวีจะติดตั้งอยู่ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคารที่พักอาศัย เมื่อเดือนธันวาคม 2023 ผ่านมา รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศกฎหมายห้ามติดตั้งจุดชาร์จไฟฟ้ารถอีวีในชั้น 2 ของชั้นใต้ดิน หรือชั้น B2 ลงไป
ปัญหาการเกิดไฟไหม้ในรถอีวีที่เกาหลีใต้ กลายเป็นความกังวลอันดับแรกๆของผู้ใช้รถอีวีอยู่แล้ว และคนที่ยังไม่ได้เปลี่ยนมาใช้รถอีวี โดยเมื่อเดือนมิถุนายน 2023 มีจำนวนรถอีวีเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้สะสมรวม 132 คัน อย่างไรก็ตาม รถยนต์เครื่องสันดาปเกิดไฟไหม้เฉลี่ยปีละ 4,000 คันในเกาหลีใต้ ด้านสำนักงานความปลอดภัยการขนส่งและการเดินทางเกาหลีใต้ หรือ KTSA เปิดเผย ผลสำรวจผู้ใช้รถในเกาหลีใต้ พบว่า 29.3% กังวลเหตุไฟไหม้หลังรถอีวีชน มี 21.1% กังวลเหตุไฟไหม้เกิดขึ้นขณะกำลังชาร์จไฟฟ้า
สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ หรือไออีเอ เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าประเทศเกาหลีใต้จะมีอัตราส่วนจุดชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถอีวีสูงที่สุดของโลก รวมถึงค่าชาร์จไฟฟ้าที่มีราคาถูก ซึ่งคิดอยู่ราว 20 เซนต์ต่อระยะทาง 7 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม มีสัดส่วนสูงถึง 90% ของจุดชาร์จไฟฟ้าสาธารณะสำหรับรถอีวีเป็นระบบชาร์จช้า