วันนี้ (10 ก.ย.2567) ตามเวลาประเทศไทย Apple เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่หลายอย่างในงาน It’s Glowtime ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดย “ทิม คุก” ผู้บริหารระบุว่า การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่รวมถึงผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อต้องการดึงดูดใจลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่ สิ่งที่ได้รับความสนใจจากสาวก Apple ในงานนี้รวมถึงทั่วโลกคือ การเปิดตัว iPhone 16 ที่ถูกระบุว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับปัญญาประดิษฐ์ หรือ Apple Intelligence ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างข้อความและรูปภาพพร้อมคำแนะนำได้ง่ายขึ้น
ทิม คุก อธิบายว่า AI ที่แปลว่าระบบอัจฉริยะของ Apple เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเขียนต่าง ๆ เช่น อีเมล ข้อความ การพิมพ์แชต จะใช้ AI หรือ Apple Intelligence นั่นแหละช่วยเหลือผู้ใช้งาน และยังทำงานร่วมกับ Siri ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย
Apple ได้เปิดตัว A18 และ A18 Pro นวัตกรรมชิปซิลิคอนรุ่นล่าสุดที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม 3 นาโนเมตรเจเนอเรชันที่สองที่พัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรองรับการทำงานของ AI โดยเฉพาะ
“A18” ขับเคลื่อนด้วย CPU 6 CPU Core และ GPU 5 Core พร้อมด้วย 16-core Neural Engine ที่ประมวลผลเร็วและแรงกว่า iPhone 15 ที่ใช้ชิป A16 Bionic ถึงสองเท่า แต่กลับใช้พลังงานน้อยลงกว่าเดิมถึง 30%
ไฮไลต์ของ A18 คือการอัปเกรดแบนด์วิธหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 17% เพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลและการประมวลผลของโมเดลขนาดใหญ่อย่าง Generative Model เช่น LLM ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด และยังปล่อยชิป “A18 Pro” สำหรับ iPhone 16 Pro Model ที่มี Next-gen ML รองรับการประมวลผลของ AI ที่แรงขึ้นกว่า A18 โดยอัปเกรดจาก A18 จาก GPU 5 Core เป็น GPU 6 Core เน้นรองรับการประมวลผลทางภาพและเสียง โดยเฉพาะการถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ และเกม ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เร็วและแรงกว่า A17 Pro ถึง 20% และใช้พลังงานน้อยกว่า 20% โดยเคลมว่าเป็นชิปสำหรับสมาร์ทโฟนที่เร็วที่สุด
นอกเหนือจากคุณสมบัติ Apple Intelligence ไฮไลต์ของตระกูล iPhone 16 ยังมีเรื่องของ ตัวเครื่องที่มีการปรับโฉมใหม่ที่มาพร้อมกับหน้าจอมากับ Ceramic Shield แข็งแกร่งกว่าเจเนอเรชั่นแรกถึง 50% รวมถึงปุ่มควบคุมกล้องที่เป็นการอัปเดตทางกายภาพครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีของกลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone โดยปุ่ม “Camera Control” สำหรับควบคุมกล้องที่ทำให้มีวิธีใหม่ๆ ในการโต้ตอบกับระบบกล้องสุดล้ำ ไม่ว่าจะซูม สลับเลนส์ และใช้ตัวเลือกอื่นๆ ด้วยการตอบสนองแบบสัมผัส ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพเพื่อบันทึกความทรงจำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เป็นต้น
iPhone 16 รุ่นใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้เพียงแค่เล็งกล้องไปที่เป้าหมาย เช่น ผู้ใช้สามารถหันกล้องไปที่ร้านอาหาร จากนั้น iPhone 16 จะดึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับร้านนั้น ๆ ขึ้นมา เช่น รีวิว เมนู และ วิธีการจอง ก่อนหน้านี้ Apple เคยประกาศการร่วมมือกับ OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ซึ่งคุณสมบัติความอัจฉริยะของ Apple ด้านภาพ จะช่วยเติมข้อมูลให้กับคลังข้อมูลของ ChatGPT เพิ่มมากขึ้นด้วย Federighi ได้กล่าวไว้
โดย iPhone 16 ยังมีจุดเด่นคือ Siri ฉลาดขึ้น ด้วย Apple Intelligence ซึ่งSiri จะสามารถตอบคำถามผู้ใช้งาน โดยใช้ข้อมูลจากหลาย ๆ แอปฯ เข้ามาประมวลผล และ Siri ยังเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมหรือการนัดหมาย โดยบอกเวลา สถานที่ สรุปเอกสารที่ต้องใช้ประชุม และบอกสภาพอากาศเพื่อให้คุณรู้ว่าควรแต่งตัวอย่างไร รวมไปถึง อีโมจิที่สร้างโดย AI หรือความอัจฉริยะของ Apple ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างอีโมจิของตัวเองได้ โดยใช้คำสั่งข้อความใน iMessage รวมถึง ฟีเจอร์เดิมที่ผู้ใช้งาน “อันล็อก” บางแอปพลิเคชันโดยใช้ Face ID, Touch ID หรือรหัสผ่าน สำหรับไอโฟนเอไอรุ่นนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถ “ซ่อน” แอปฯ เพื่อไม่ให้แอปฯ ที่ซ่อนแสดงบนหน้าจอหลักได้อีกด้วย เป็นต้น
ทิม คุก กล่าวด้วยว่า Apple เผชิญกับแรงกดดันมหาศาลก่อนงานเปิดตัวสินค้าว่า AI หรือความอัจฉริยะของ Apple และการอัปเดตฟีเจอร์อื่น ๆ ของ iPhone 16 คุ้มค่าแก่การอัปเกรดหรือไม่ บริษัทจำเป็นต้องโน้มน้าวใจลูกค้าว่าไม่ได้ตกยุคในการแข่งขันด้าน AI เนื่องจากบริษัทคู่แข่งได้เปิดตัวฟีเจอร์ที่คล้ายกันโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปแล้ว นับตั้งแต่การเปิดตัว iPhone 12 พร้อมการเชื่อมต่อ 5G ในปี 2563 บริษัทก็ให้เหตุผลที่น่าสนใจแก่ผู้ใช้งานได้ไม่กี่ข้อ กล้องโทรศัพท์ได้รับการพัฒนาไปมากจนถึงจุดที่เพียงพอสำหรับความต้องการในชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่แล้ว และในบางครั้ง คนก็แทบไม่เห็นความแตกต่างของความละเอียดหน้าจอที่สูงขึ้นได้ด้วยซ้ำ ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ iPhone ลดลงเกือบครึ่งของรายได้บริษัท
อย่างไรก็ตาม iPhone 16 Pro Max รุ่นใหม่ล่าสุดจะมีราคา 1,199 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 40,490 บาท ) ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างสูงทีเดียว และถือเป็น iPhone ที่มีราคาแพงที่สุดเท่าที่ Apple เคยจำหน่ายมา และที่สำคัญ นี่คือราคาที่ยังไม่รวมอัตราเงินเฟ้อ ถ้าเทียบ iPhone X ในปี 2560 มีราคา 999 ดอลลาร์สหรัฐ (เริ่มต้น 33,736.23 บาท) ซึ่งถือเป็น iPhone ที่มีราคาแพงที่สุดที่บริษัทในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนียจำหน่ายได้ แต่เมื่อปรับตามอัตราเงินเฟ้อแล้ว iPhone X ราคา 999 ดอลลาร์กลับมีราคาแพงกว่า iPhone 16 Pro Max รุ่นใหม่ถึง 74 ดอลลาร์สหรัฐ ตามข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคจากสำนักงานสถิติแรงงาน
สำหรับ iPhone 16 เปิดตัวมาพร้อม 4 รุ่นย่อย ได้แก่
iPhone 16 ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท (128 GB)
iPhone 16 Plus ราคาเริ่มต้น 34,900 บาท (128 GB)
iPhone 16 Pro ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท (128 GB)
iPhone 16 Pro Max ราคาเริ่มต้น 48,900 บาท (256 GB)
โดยราคา iPhone 16 และ iPhone 16 Plus ในแต่ละโมเดลความจุราคาคิดเป็นเงินบาท มีราคาเปิดตัวลดลง 3,000-4,000 บาท เมื่อเทียบกับ iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ซึ่งเตรียมเปิดให้จองล่วงหน้าในประเทศไทยทุกรุ่นวันที่ 13 กันยายนนี้ ตั้งแต่เวลา 19:00 น. และจะวางจำหน่ายจริงในวันที่ 20 กันยายน