เปิด 5 ชาติไม่พ้นโดนสหรัฐขึ้นภาษีสูง 25% ส่งสินค้าเหล็กและอลูมินัม หนึ่งเดียวในชาติอาเซียนติดโผจ่อโดนภาษีเหล็กและอลูมินัมใหม่ของสหรัฐ

สถาบันเหล็ก และเหล็กกล้าแห่งชาติสหรัฐ และกระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ เปิดเผยข้อมูลว่าแหล่งนำเข้าเหล็ก และเหล็กกล้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ คือ ประเทศแคนาดา บราซิล เม็กซิโก เกาหลีใต้ และเวียดนาม สำหรับอลูมินัมนั่น ในแง่กำไรจะพบว่าแคนาดาเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกอลูมิเนียมเกรดหลักให้กับสหรัฐอเมริกาโดยคิดเป็น 79% ของการนำเข้าทั้งหมดในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2024 ผ่านมา สอดรับกับประเทศเม็กซิโกซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในการส่งออกอลูมินัมอัลลอยด์ และเศษอลูมินัม ในด้านเหล็กปรากฏว่าแคนาดาและเม็กซิโก เป็นประเทศส่งออกที่มีขนาดใหญ่อันดับ 1 และอันดับที่ 3 ของโลกเข้าสู่สหรัฐอเมริกา ภาคเอกชนในสหรัฐเปิดเผยว่าสหรัฐต้องนำเข้าเหล็กจากแคนาดาคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงเกือบ 25% เมื่อกิจจากน้ำหนักเป็นเกณฑ์ ขณะที่ต้องนำเข้าเหล็กราว 12% จากประเทศเม็กซิโก

ในภาพรวมแล้วเอกชนสหรัฐนำเข้าเหล็กลดลงถึง 27% ในระหว่างปี 2017 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะมีการประกาศใช้มาตรการอัตราภาษีนำเข้าสินค้าเหล็ก จนกระทั่งถึงปี 2019 นอกจากจะมีสาเหตุมาจากการประกาศขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กแล้วส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการบริโภคเหล็กภายในประเทศสหรัฐอเมริกาลดลงต่อเนื่อง ด้านการผลิตเหล็กในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2024 ผ่านไปพบว่าลดลงเล็กน้อยเพียง 2% เมื่อเทียบกับปี 2023 อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวกลับลดลงถึง 10% เมื่อเทียบกับในช่วง 10 ปีผ่านมา

การนำเข้าเหล็ก และอลูมินัมของสหรัฐอเมริกาจากคู่ค้าต่างประเทศ ซึ่งมีการบริโภคมากถึงปีละหลายสิบล้านเมตริกตัน จะนำมาใช้ในภาคอุตสาหกรรมหลากหลายของสหรัฐอเมริกา ได้แก่ รถยนต์ ยานอวกาศ การผลิตน้ำมัน การก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและสะพาน หากประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสูงถึง 25% ดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมข้างต้นเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนทางภาษีและผู้ผลิตจะต้องปรับขึ้นราคาขายในที่สุด

เมื่อกว่า 3 ชั่วโมงผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ (ตามเวลาสหรัฐ) จะประกาศมาตรการเก็บขึ้นภาษี 25% กับสินค้าเหล็กและอลูมินัมที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยอัตราภาษีดังกล่าวจะเป็นการเก็บเพิ่มเติมจากอัตราภาษีที่เก็บกับทั้ง 2 สินค้าในปัจจุบัน

สำหรับอัตราภาษีใหม่ที่จะเก็บขึ้นถึง 25% จากอัตราภาษีเดิมของเหล็กและอลูมินัมนั่น นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เคยประกาศใช้มาตรการภาษีดังกล่าวประกอบด้วย เก็บเพิ่ม 25% กับเหล็ก และเก็บเพิ่ม 10% กับอลูมินัม เมื่อครั้งที่เป็นประธานาธิบดีสหรัฐครั้งแรก หรือในปี 2017 แต่ได้รับการประกาศใช้โควต้าปราศจากอัตราภาษีอากรให้กับประเทศยักษ์ใหญ่ ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก และบราซิล ต่อมาอดีตประธานาธิบดีสหรัฐ นายโจ ไบเดน ได้ขยายโควต้าดังกล่าวให้กับอังกฤษ ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศว่าในวันจันทร์หรือวันอังคารของสัปดาห์นี้ รัฐบาลสหรัฐจะมีการประชุมเพื่อจะประกาศนโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทนกับหลากหลายประเทศที่เป็นคู่ค้ากับประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะทำให้สหรัฐอเมริกาทำการค้าขายอย่างเท่าเทียมกันกับนานาประเทศ สหรัฐไม่ต้องการมากเกินไปในขณะเดียวกันก็ไม่ต้องการน้อยเกินไป

ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กล่าวต่อไปว่านโยบายภาษีสินค้าต่างตอบแทน จะมีอัตราภาษีอยู่ระหว่าง 10 ถึง 20% ซึ่งจะใช้กับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศตามที่ได้เคยหาเสียงไว้ก่อนหน้านี้ นโยบายดังกล่าวถือว่ามีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จะไม่มีใครได้รับความเสียหาย คู่ค้าประเทศไหนเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ สหรัฐก็เก็บอัตราภาษีทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน โดยเฉพาะอัตราภาษีสำหรับรถยนต์ ก็อยู่ในการพิจารณาด้วย ถือว่าเป็นรายการสินค้าขนาดใหญ่ สหรัฐจะต้องทำให้เกิดความเสมอภาคด้วย

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวมาอย่างสม่ำเสมอว่าอัตราภาษีเก็บจากรถยนต์สหรัฐส่งออกไปยังยุโรปมากถึง 10% แต่ในขณะที่สหรัฐเก็บอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปเพียงแค่ 2.5%

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles