ไวโป (WIPO) เปิดเผยรายการการจัดอันดับประเทศนวัตกรรมมากที่สุดของโลกประจำปี 2025 หรือ Global Innovation Index (GII) 2025 สำรวจครอบคลุมทั้งหมด 139 ประเทศ และเขตเศรษฐกิจทั่วโลก ตัวชี้วัด 78 รายการถูกจัดเป็นทั้งหมด 6 แกนหลัก พบว่า สวิสเซอร์แลนด์ยังคงเป็นอันดับ 1 ประเทศนวัตกรรมมากที่สุดของโลก โดยครองอันดับ 1 มาถึง 14 ปีติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา
ขณะที่ความน่าสนใจในปีนี้ คือประเทศจีนได้รับการจัดอันดับให้ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 10 ของโลก ซึ่งไม่เพียงเป็นครั้งแรกที่ประเทศจีนถูกจัดว่าเป็นประเทศนวัตกรรมมากที่สุดติดหนึ่งใน 10 ของโลก แต่ยังแซงเยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งของทวีปยุโรปให้ลงไปอยู่อันดับที่ 11 ของโลก สาเหตุจากประเทศจีน ทุนงบประมาณด้านงานวิจัยและพัฒนาอย่างมากมายและต่อเนื่องได้ในช่วงหลายปีผ่านมา
สำหรับ 10 ประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียนมีการจัดอันดับดัชนีประเทศนวัตกรรมของโลกปี 2025 คะแนนเต็ม 100 คะแนน (ตัวเลขในวงเล็บเป็นอันดับโลก) ดังนี้ 1. สิงคโปร์ 59.9 คะแนน(5) 2.มาเลเซีย 40.6 คะแนน(34) 3.เวียดนาม 37.1 คะแนน(44) 4.ไทย 36.7 คะแนน(45) 5.ฟิลิปปินส์ 33.6 คะแนน(50) 6.อินโดนีเซีย 31.3 คะแนน(55) 7.บรูไน 24.5 คะแนน(88) 8.กัมพูชา 22.0 คะแนน(100) 9.สปป.ลาว 20.1 คะแนน (109) และ 10.เมียนมา 17.3 คะแนน(122)
สำหรับประเทศเวียดนามมีอันดับที่สูงกว่าไทยใน 4 จาก 7 ด้านตัวชี้วัด ได้แก่ 1.ด้านสถาบันอยู่อันดับที่ 59 ไทยอยู่อันดับ 76 2.ด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่อันดับที่ 56 ไทยอยู่อันดับ 59 3.ด้านความรู้และผลผลิตเทคโนโลยีอยู่อันดับที่ 39 ไทยอยู่อันดับ 44 และ 4.ด้านผลลัพธ์สร้างสรรค์อยู่อันดับที่ 34 ไทยอยู่อันดับ 39
ด้านประเทศไทยมีอันดับที่สูงกว่าเวียดนามใน 3 จาก 7 ด้านตัวชี้วัด ได้แก่ 1.ทรัพยากรทุนมนุษย์และวิจัยอยู่อันดับที่ 53 เวียดนามอยู่อันดับ 70 2.ความเจนจัดด้านตลาดอยู่อันดับที่ 27 เวียดนามอยู่อันดับ 43 และ 3.ความเจนจัดด้านธุรกิจอยู่อันดับที่ 42 เวียดนามอยู่อันดับ 45
สำหรับ 10 อันดับแรกของประเทศนวัตกรรมมากที่สุดของโลกปี 2025 มีดังนี้ 1.สวิตเซอร์แลนด์ 2.สวีเดน 3.สหรัฐอเมริกา 4.เกาหลีใต้ 5.สิงคโปร์ 6.สหราชอาณาจักร 7.ฟินแลนด์ 8.เนเธอร์แลนด์ 9.เดนมาร์ก และ 10.จีน
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวเปิดเผยว่า ในแง่มุมมองด้านนวัตกรรมของโลกได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดการชะลอตัวลงส่งผลให้ในภาพรวมมีการตัดลดงบประมาณด้านงานวิจัยและพัฒนาของประเทศทั่วโลก สะท้อนจากการเติบโตด้านงานวิจัยและพัฒนาทั่วโลกในปี 2025 นี้จะเติบโตเพียงแค่ 2.3% ซึ่งลดลงจากในปี 2024 ที่มีการเติบโต 2.9% โดยในปี 2024 ดังกล่าวนั้นทำสถิติเป็นปีที่มีการลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาที่ต่ำที่สุดในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่เกิดวิกฤติสถาบันการเงินล่มสลายในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2008
