เศรษฐกิจจีนส่อแววเครื่องยนต์ฝืดยาว คาดปีนี้โตต่ำกว่าเป้ารัฐบาลตั้งไว้ที่ 5% ธนาคารซิตี้กรุ๊ปทุบจีดีพีจีนปี 68 ลงมากถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์เหลือโตแค่ 4.2%

เศรษฐกิจจีน ส่อแววเครื่องยนต์ฝืดยาว คาดปีนี้โตต่ำกว่าเป้ารัฐบาลตั้งไว้ที่ 5% ธนาคารซิตี้กรุ๊ปทุบจีดีพีจีนปี 68 ลงมากถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์เหลือโตแค่ 4.2%

ธนาคารซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังระดับโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2025 นี้ ลงจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ 4.7% มาเหลือเพียง 4.2% หรือเป็นการปรับลดจีดีพีลงมากถึง 0.5% จากเป้าหมายเดิม สาเหตุจาก ปัจจัยลบและความเสี่ยงสูงจากเศรษฐกิจภายนอกประเทศจีน

สงครามภาษีที่เกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าในหลายมาตรการกับประเทศจีนในระดับที่สูงมากนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกชะลอตัวลงลึกมากสุดถึง 1.5% ในปี 2025 เมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2024 ผ่านมา หากการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นจริง จะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนในปี 2025 ขยายตัวเหลือเพียง 3.5% จากระดับ 4.7% ซึ่งเป็นเป้าหมายจีดีพีเดิมที่คาดการณ์ไว้ก่อนจะปรับลดลงในครั้งนี้

เมื่อ 26 มีนาคมผ่านมา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แม้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจีนจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ในปี 2568 เศรษฐกิจจีนยังเผชิญความเสี่ยงหลายด้าน ดังนี้ สงครามการค้ารอบใหม่ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นตลอดทั้งปี ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนแล้วทั้งหมด 20% นอกจากนี้ ประเทศอื่นๆ เช่น เม็กซิโก ยังมีท่าทีจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอของการเร่งส่งออก

การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังมีทิศทางชะลอกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศ แม้ทางการจะทยอยออกมาตรกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ระดับราคาที่อยู่อาศัย ยอดขาย และการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังปรับลดลง ซึ่งความมั่งคั่งของครัวเรือนในจีนอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ราว 70%

ปัญหาเงินฝืดยังเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการฟื้นตัวของภาคการบริโภค ในการประชุมสองสภาของจีนได้ปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อปี 2568 ลงอยู่ที่ 2% สะท้อนว่าเงินเฟ้อจีนยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุดเงินเฟ้อในส่วนของภาคบริการที่เคยเป็นปัจจัยหนุนสำคัญของเงินเฟ้อจีนได้ปรับลดลง นอกจากนี้ สงครามการค้ารอบใหม่จะยิ่งกดดันความเสี่ยงด้านเงินฝืดของจีนผ่านราคาผู้ผลิตที่ยังปรับลดลง 29 เดือนติดต่อกัน

แผนการกระตุ้นการบริโภคล่าสุดเน้นผลในระยะยาว หลังการประชุมสองสภาทางการจีนได้ออกแผนกระตุ้นการบริโภค (Special Action Plan) ซึ่งรายละเอียดของนโยบายมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านไปสู่โครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศ

ในแผนการกระตุ้นการบริโภค (Special Action Plan) ของทางการจีนได้ระบุถึงแผนในการส่งเสริมการบริโภคทั้งในส่วนของการให้เงินสนับสนุนเพิ่มเติมผ่านโครงการของเก่าแลกของใหม่ (Trade-in Program) และแนวทางการเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือนผ่านสวัสดิการต่างๆ โดยมีรายละเอียด ดังนี้

โครงการของเก่าแลกของใหม่ (Trade-in Program) จะช่วยสนับสนุนยอดค้าปลีกของจีนในปี 2568 โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า และรถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ ทางการจีนจะใช้เงินจากการออกพันธบัตรรัฐบาลพิเศษจำนวน 300 พันล้านหยวนเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ประเภทของสินค้าที่ทางการจีนให้การสนับสนุนเป็นสินค้าคงทนจึงอาจทำให้เกิดการเร่งใช้จ่าย และการชะลอตัวของการบริโภคในภายหลัง

แนวทางการเพิ่มรายได้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการเติบโตของรายได้ในจีนชะลอลง หลังมีการปรับลดเงินเดือนในบางภาคส่วน ทางการจีนจึงจะเข้ามาแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ และการส่งเสริมการอบรมทักษะต่างๆ เป็นต้น การเพิ่มสวัสดิการเพื่อสนับสนุนให้เกิดความต้องการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อลดอัตราการเก็บออมของครัวเรือน โดยระบุว่าจะมีการพัฒนาสวัสดิการสุขภาพ และการดูแลเด็ก แนวทางในการผลักดันด้านอื่นๆ เช่น แนวโน้มการสนับสนุนการขยายแผน Visa-Free ให้กับประเทศต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยว เป็นต้น

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าแผนการกระตุ้นการบริโภคล่าสุดนั้นเน้นการปฏิรูปในระยะยาวมากกว่าการสนับสนุนให้เกิดการบริโภคในระยะสั้น ผลจากการมาตรการยังขึ้นอยู่กับรายละเอียดและเม็ดเงินในแต่ละโครงการเพิ่มเติม

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles