นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า แรงกดดันอย่างมากที่มีต่อภาวะเงินฝืด ซึ่งหลายประเทศในเอเชีย และอาเซียนเผชิญอยู่ในขณะนี้โดยเป็นผลมาจากสินค้าและวัตถุดิบราคาถูกมากนำเข้าจากประเทศจีนนั้น คาดการณ์ว่าหลายประเทศจะต้องเผชิญกับภาวะที่เรียกว่า ไชน่า ช็อค ภาวะดังกล่าวหมายถึง สินค้าที่มีราคาถูกมากจากจีนนำเข้ามาในประเทศ ทำให้ราคาสินค้าจนไปถึงอัตราเงินเฟ้อในแต่ละประเทศลดต่ำลงมากจนกระทั่งเกิดภาวะเงินเฟ้อติดลบ ในขณะเดียวกันส่งผลให้โรงงานผลิตสินค้าที่อยู่ในแต่ละประเทศ ไม่สามารถแข่งขันในการผลิตสินค้าได้อีกต่อไป ทำให้ต้องลดค่าใชจ่ายโดยเฉพาะการปลดพนักงาน ซึ่งไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้
นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารโกลด์แมน แซคส์ ซึ่งเป็นธนาคารชื่อดังระดับโลกในประเทศสหรัฐอเมริกา มองว่า สินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศจีนมักจะมีราคาถูกลงอย่างมาก ดังนั้นคาดการณ์ว่าสินค้าจากจีนที่ประเทศญี่ปุ่นนำเข้ามาใน 2 ปีที่ผ่านมานั้น จะมีราคาถูกมากกว่าถึง 15% เมื่อเปรียบเทียบจากการนำเข้าจากประเทศอื่นๆ
นักเศรษฐศาสตร์จากโนมูระ เปิดเผยว่าในขณะที่หลายประเทศอาจจะสามารถ ชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นระหว่างภาวะเงินเฟ้อลดต่ำลงต่อเนื่องกับผลด้านลบของภาวะไชน่าช็อค แต่สำหรับในกรณีของประเทศไทยจะกลายเป็นดาบ 2 คม เศรษฐกิจประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด จากภาวะไชน่าช็อค ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจประเทศไทย เข้าสู่ภาวะเงินฝืด ในปี ในขณะที่เศรษฐกิจประเทศอินเดียอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ จะได้รับผลกระทบจนทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางในแต่ละประเทศกำหนดเป้าหมายไว้
ทั้งนี้ ในช่วงปลายทศวรรษยุค 1990 เรื่อยจนไปถึงต้นทศวรรษยุค 2000 เศรษฐกิจโลกเผยเผชิญกับภาวะไชน่าช็อค ในช่วงเวลานั้นจีนเปิดระบบเศรษฐกิจเชื่อมเข้ากับทั่วโลกด้วยการส่งออกในยุคแรกแรกทำให้มีสินค้าราคาถูกจากประเทศจีนไหลเข้าสู่ตลาดโลก ส่งผลให้ภาวะเงินเฟ้อโลกลดต่ำลง ท่ามกลางบริษัทต่างๆในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมในโลกตะวันตกได้ใช้โมเดลย้ายฐานการผลิตออกมาตั้งโรงงานที่อยู่ในประเทศอื่นๆแถบเอเชียและอาเซียนมาเป็นระยะเวลานานกว่า 3 ทศวรรษจนถึงปัจจุบัน