เฮนเนสซี่ปลดพนักงานครั้งใหญ่ 1,200 คน ตกงานกว่า 10% ตลาดบรั่นดีซบเซาในจีนและสหรัฐ ผลพวงเศรษฐกิจ 2 ยักษ์ใหญ่ชะลอตัว ผสมโรงฝรั่งเศสโดนภาษีต่างตอบแทนสูง 20% ของสหรัฐ

เฮนเนสซี่ ปลดพนักงาน ครั้งใหญ่ 1,200 คน ตกงานกว่า 10% ตลาดบรั่นดีซบเซาในจีนและสหรัฐ ผลพวงเศรษฐกิจ 2 ยักษ์ใหญ่ชะลอตัว ผสมโรงฝรั่งเศสโดนภาษีต่างตอบแทนสูง 20% ของสหรัฐ

นายฌอง-ฌัก กีโญนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัท โมเอท เฮนเนสซี่ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไวน์ และสุราแบรนด์ดังชื่อว่าเฮนเนสซี่ (Hennessy) ซึ่งอยู่ในเครือของกลุ่มบริษัทแอลวีเอ็มเอช LVMH ที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าหรูหราระดับโลก เช่น หลุยส์ วิตตอง คริสเตียน ดิออร์ ทิฟฟานนี แอนด์ โค เป็นต้น เปิดเผยว่า เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่มากถึง 1,200 คน หรือกว่า 10% ของพนักงานทั้งหมดในปัจจุบัน เพื่อเป้าหมายในการให้มีจำนวนพนักงานลดลงเท่ากับในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 สาเหตุในการปลดพนักงานในครั้งนี้เป็นผลมาจากธุรกิจและตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทบรั่นดีซบเซาทั้งในสหรัฐอเมริกา และจีน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่สำคัญของเฮนเนสซี่

นายอเล็กซานเดร อาโนลด์ ซึ่งเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีนายเบอร์นาร์ด อาโนลด์ มหาเศรษฐี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอกลุ่มบริษัทแอลวีเอ็มเอช LVHM ที่เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าหรูหราระดับโลก เช่น หลุยส์ วิตตอง คริสเตียน ดิออร์ ทิฟฟานนี แอนด์ โค เป็นต้น รวมถึงเป็นผู้บริหารระดับสูงอีก 1 คนที่ช่วยบริหารร่วมกับซีอีโอบริษัท โมเอท เฮนเนสซี่ เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มไวน์ บรั่นดี และสุรา ภายใต้แบรนด์ดังชื่อว่าเฮนเนสซี่ (Hennessy) มียอดขายในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ตกต่ำมากถึง -9% ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานอ่อนแอที่สุดในเครือบริษัทแอลวีเอ็มเอช

ถึงแม้ว่าในภาพรวมของกลุ่มธุรกิจดังกล่าว จะสามารถฟื้นตัวเต็ม 100% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ก็ตาม แต่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับโครงสร้างภายในบริษัท โดยเฉพาะการบริหารจัดการจำนวนพนักงานและยืนยันว่าจะไม่มีการรับพนักงานใหม่แต่อย่างใด

นายอเล็กซานเดร อาโนลด์ ซึ่งเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีนายเบอร์นาร์ด อาโนลด์ มหาเศรษฐี และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอกลุ่มบริษัทแอลวีเอ็มเอช LVHM ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาดูแลและบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 เป็นต้นมา ซึ่งกำลังเผชิญกับสภาพตลาดที่ซบเซาในสหรัฐอเมริกาและจีนซึ่งเป็นผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวรวมถึงสงครามภาษีซึ่งประเทศฝรั่งเศสถูกเก็บภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs สูงถึง 20% จากสหรัฐอเมริกา

ทั้งนี้ บริษัท โมเอท เฮนเนสซี่ เป็นผู้ผลิตคอนญัค ซึ่งเป็นเครื่องดื่มประเภทบรั่นดีที่ผลิตจากไวน์องุ่น รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยยอดจำหน่ายที่มีมากกว่าปีละ 50 ล้านขวดทั่วโลก เฮนเนสซี่ก่อตั้งขึ้นที่เมืองคอนญัคในปี 1765 หรือเมื่อ 260 ปีผ่านมา โดยนายริชาร์ด เฮนเนสซี่ ต่อมาในปี 1804 เป็นหนึ่งในบริษัทที่ผลิตและส่งออกคอนญัคในขวดแก้วออกไปตลาดโลก ในปี 1817 ตั้งบริษัทชื่อ เฮนเนสซี่ วี.เอส.โอ.พี ในปี 1870 ผลิตเฮนเนสซี่ เอ็กซ์.โอ ซึ่งเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก ต่อมาในปี 1971 เฮนเนสซี่ถูกรวมกิจการกับบริษัทโมเอท แอนด์ ชานดอน กลายเป็นบริษัทโมเอท เฮนเนสซี่ เมื่อถึงปี 1987 บริษัทโมเอท เฮนเนสซี่ ถูกรวมกิจการเข้ากับหลุยส์ วิตตอง เพื่อตั้งชื่อบริษัทใหม่เป็นกลุ่มบริษัทแอลวีเอ็มเอช (LVMH)

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles