ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่าศรษฐกิจไทยเดือนพ.ย.68 ขยายตัวจากเดือนก่อนตามอุปสงค์ต่างประเทศ โดยการส่งออกสินค้าและรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อกิจกรรมในภาคบริการที่เกี่ยวข้อง ส่วนอุปสงค์ในประเทศเพิ่มขึ้น จากการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ แต่การบริโภคภาคเอกชนปรับลดลง
สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในหลายหมวด โดยส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราว ประกอบกับอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศชะลอลงในบางสินค้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกใกล้เคียงกับเดือนก่อน ขณะที่ตลาดแรงงานทรงตัว ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลจากทั้งดุลบริการ รายได้ และเงินโอน และดุลการค้า
เศรษฐกิจด้านอุปทาน
เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากการใช้จ่ายในหมวดสินค้าไม่คงทน ตามยอดจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงและปริมาณการใช้ไฟฟ้า แม้การใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าคงทนลดลง จากยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ และยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายในหมวดบริการเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะโรงแรม และภัตตาคาร สอดคล้องกับรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและการใช้จ่ายของคนไทยที่ส่วนหนึ่งได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยมาตรการดังกล่าว มีส่วนช่วยให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน
เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ ตามยอดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักร เครื่องมือ อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหมวดยานพาหนะลดลง ตามยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งทุกประเภท และมูลค่าการนำเข้าเครื่องบิน ขณะที่หมวดก่อสร้างลดลงเล็กน้อย โดยหมวดที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างนอกเขตอุตสาหกรรม และอาคารพาณิชย์ และหมวดที่อยู่อาศัยลดลงตามพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างคอนโดมิเนียม
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน จากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ที่เร่งไปในช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะจีน และเกาหลีใต้ รวมถึงมาเลเซีย ที่ลดการเดินทางในช่วงที่ภาคใต้เผชิญสถานการณ์น้ำท่วม อย่างไรก็ดี รายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long-haul) ที่มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงปรับเพิ่มขึ้น และ
ช่วยชดเชยการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ที่ลดลงได้
มูลค่าการส่งออกสินค้า ไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนในหลายหมวดสินค้า อาทิ 1) เครื่องประดับไปอินเดีย 2) อิเล็กทรอนิกส์ จากการส่งออกอุปกรณ์โทรคมนาคมไปสหรัฐฯ รวมถึงคอมพิวเตอร์ไปจีน และ 3) เหล็กและโลหะ ตามการส่งออกอะลูมิเนียมและทองแดงไปจีน อย่างไรก็ตาม การส่งออกหมวดยานยนต์ ปรับลดลงตามการส่งออกรถกระบะ และรถยนต์นั่งไปตะวันออกกลาง และอาเซียนที่อุปสงค์ชะลอลง
มูลค่าการนำเข้าสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จาก 1) หมวดวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางที่ไม่รวมเชื้อเพลิง ตามการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไต้หวัน 2) หมวดสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามการนำเข้าโทรศัพท์มือถือ และรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และ 3) สินค้าทุนไม่รวมเครื่องบิน ตามการนำเข้าเครื่องจักร และคอมพิวเตอร์จากจีน อย่างไรก็ตาม หมวดเชื้อเพลิงลดลงตามการนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง
การใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายลงทุนเป็นสำคัญ โดยรายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางขยายตัวจากการใช้จ่ายในโครงการทางหลวง และด้านชลประทาน ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง อย่างไรก็ดี รายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางใกล้เคียงกับปีก่อน โดยการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญ งบบุคลากร และค่ารักษาพยาบาลข้าราชการขยายตัว ขณะที่การเบิกจ่ายค่าจัดการเรียนการสอนหดตัว
เศรษฐกิจด้านอุปสงค์
ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลลดลงจากเดือนก่อน โดยลดลงในทุกกลุ่มการผลิตดังนี้ 1) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนน้อยกว่า 30% ลดลงจากการผลิตปิโตรเลียมที่หยุดผลิตชั่วคราว ตามการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 2) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วน 30-60% ลดลงจากการผลิตรถยนต์นั่ง และรถกระบะ ตามอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอลง รวมถึงกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ตามการผลิตกลุ่มอาหารทะเลแช่เย็นแช่แข็ง และทูน่ากระป๋อง เนื่องจากโรงงานหยุดผลิตชั่วคราวในช่วงน้ำท่วมภาคใต้ และเครื่องดื่ม จากอุปสงค์ในประเทศชะลอตัว และ 3) กลุ่มผลิตเพื่อส่งออกในสัดส่วนมากกว่า 60% ลดลงจากหมวดฮาร์ดดิกส์ไดร์ฟ และแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนที่มีการเร่งผลิตในช่วงก่อนหน้า
เครื่องชี้ภาคบริการที่ไม่รวมการซื้อขายทองคำ และขจัดปัจจัยฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน ตามกิจกรรมในภาคการท่องเที่ยวที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับรายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายในร้านอาหารของคนไทยที่มากขึ้นจากผลบวกของมาตรการภาครัฐ รวมทั้งการขนส่งผู้โดยสาร จากการขนส่งที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวตามการขยายเส้นทางบินของสายการบินในประเทศ ด้านภาคการค้าปรับเพิ่มขึ้นตามการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้น
รายได้เกษตรกรหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนตามราคาสินค้าเกษตรเป็นสำคัญ โดยราคาข้าวขาว และยางพารา ลดลง จากปริมาณผลผลิตของทั้งไทย และตลาดโลก ที่ยังอยู่ในระดับสูง ประกอบกับราคาผลไม้ โดยเฉพาะลำไย และทุเรียน ที่ยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการตรวจสอบสารตกค้างของจีน และผลผลิตในปีนี้ที่ออกมามาก สำหรับผลผลิตสินค้าเกษตรขยายตัวเล็กน้อย จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากการขยายพื้นที่เพาะปลูก และการปลูกทดแทนพืชไร่อื่นที่ราคาปรับลดลงมาก
-ภาวะการเงิน การระดมทุนของภาคธุรกิจ โดยรวมปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนจากการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิและตลาดทุน โดยการระดมทุนผ่านสินเชื่อสุทธิเพิ่มขึ้นตามธุรกิจการผลิตยาง และพลาสติก และธุรกิจที่พักแรม และร้านอาหารเป็นสำคัญ ด้านการระดมทุนผ่านตลาดทุนเพิ่มขึ้นจากธุรกิจผลิตสิ่งทอ อาหาร และอาหารแปรรูป อย่างไรก็ตาม การระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ปรับลดลงในธุรกิจผลิตวัสดุก่อสร้าง และภาคการค้า สำหรับต้นทุนการระดมทุนผ่านตราสารหนี้ ตั้งแต่ 1 พ.ย. – 25 ธ.ค.68 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย ทั้งระยะสั้น และระยะยาวเฉลี่ยลดลง จากการคาดการณ์และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. 68 (ข้อมูลถึง 25 ธ.ค. 68) เงินบาทปรับแข็งค่าตามทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจและการจ้างงานที่ออกมาช่วงปลายเดือน พ.ย. และต้นเดือน ธ.ค. ซึ่งยังอ่อนแอ รวมถึงปัจจัยเฉพาะของไทย ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดพันธบัตรระยะยาว รายรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ด้านดัชนีค่าเงินบาท (NEER) เฉลี่ยแข็งค่าในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. มากกว่าสกุลคู่ค้าคู่แข่ง จากปัจจัยเฉพาะของไทย
– อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบน้อยลงจากเดือนก่อน ตามหมวดอาหารสด จากราคาผักที่สูงขึ้นจากผลของน้ำท่วม แม้อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานติดลบมากขึ้นตามการลดลงของราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังเป็นบวกใกล้เคียงกับเดือนก่อน โดยราคาค่าโดยสารสาธารณะ อาหารโทรสั่งและของใช้ส่วนตัวปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาในหมวดเครื่องประกอบอาหารลดลง
ด้านภาวะตลาดแรงงาน การจ้างงานในตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัว โดยยังต้องติดตามจำนวนผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่ลดลงต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันของสินค้านำเข้า สำหรับสัดส่วนผู้ขอรับสิทธิว่างงานต่อผู้ประกันตนลดลงทั้งในภาพรวมและรายใหม่ ทั้งนี้ ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล จากทั้งดุลบริการ รายได้ และเงินโอน และดุลการค้า
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป ยังมีแรงส่งมาจากกิจกรรมในภาคบริการที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง และการบริโภคภาคเอกชนที่ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการภาครัฐ ในระยะต่อไปยังมีปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ 1) การฟื้นตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรม 2) ผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่า 3) การฟื้นตัวของธุรกิจหลังเหตุการณ์น้ำท่วม 4) ผลกระทบจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา และ 5) ผลกระทบของมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ
น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากประเมินเศรษฐกิจไทยในภาพรวมของปีนี้ เชื่อว่าจะยังเป็นไปตามทิศทางที่ ธปท.ได้ประมาณไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี มองว่าบางส่วนปรับดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ เช่น การท่องเที่ยว ทั้งจากที่คนไทยเที่ยวในประเทศ และต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย ที่ส่งผลให้ภาคการค้าปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการผลิตอุตสาหกรรม อาจยังออกมาต่ำกว่าที่คาด โดยล่าสุดดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (MPI) ที่อยู่ในระดับต่ำนั้น ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยชั่วคราว และอีกส่วนมาจากอุปสงค์ทยอยปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมา โดยมีต้นตอจากปัจจัยเชิงโครงสร้าง ที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยค่อย ๆ ลดลง ส่งผลให้การผลิตลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นสาเหตุสำคัญมาก ที่เราเน้นในเรื่องการปรับโครงสร้างระยะต่อไป
ส่วนกรณีภาวะเงินบาทแข็งค่าในช่วงที่ผ่านมานั้น ทั้งในส่วนของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และ ธปท. ต่างเห็นพ้องกันว่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจ และส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยเฉพาะของไทยเอง ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามดูผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น