นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ในการเพิ่มกิจกรรมในประเทศไทย เพื่อให้เกิดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคอนเสิร์ตและเฟสติวัลขนาดใหญ่ ททท. ได้วางแผนดำเนินงานผ่านการสนับสนุนการจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต โดยจะให้งบประมาณสนับสนุนในบางส่วน เพื่อสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติม แต่หลักๆ จะเป็นการอำนวยความสะดวกในการจัดแสดง อาทิ การเข้ามาของทีมงานจำนวนมาก การขนของที่ใช้โชว์เข้ามาด้วย ซึ่งททท.จะเข้าไปช่วยในขั้นตอน ให้ใช้เวลาตรวจสอบเร็วขึ้น เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เคยหลับใหลด้วยเทศกาลดนตรี และเทศกาลอื่นๆ ทั้งเทศกาลประเพณี วัฒนธรรม อีเวนต์กีฬา
“ตลาดหนึ่งที่มาแรงมากในแง่จำนวน และการใช้จ่าย รวมถึงชื่นชอบประเทศไทย เป็นตลาดอินเดีย โดยททท. ได้ให้การสนับสนุนคอนเสิร์ต อาลี จัสซิม (Ali Jassim) นักร้องระดับแนวหน้าของอินเดียที่มีผู้ติดตามกว่า 100 ล้านคน ในสปอติฟาย ซึ่งจะมีการแสดงในวันที่ 6 เมษายน 2567 ณ แอมแพกอารีนาเมืองทองธานี คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน ทั้งชาวต่างชาติและคนไทยด้วย“
สำหรับ ตลาดอินเดียวถือว่าเป็นตลาดไฮไลต์ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอีกตลาด โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยววัยทำงานในช่วงอายุ 29 ปี เป็นวัยที่พร้อมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อแสวงหาประสบการณ์ กำลังซื้อสูง ค้นหาการเดินทางท่องเที่ยวผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ และชอบเดินทางท่องเที่ยวเมืองไทย ประเทศไทยจึงให้ความสำคัญกับตลาดอินเดีย ผ่านการจัดกิจกรรมสำคัญ อาทิ งานภารตะไนท์ที่จัดขึ้น วันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา งานเทศกาลโฮลีในประเทศไทย งาน Amazing Thailand Holi Festival Bangkok 2024 ในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567 บริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร และงาน Holi on the beach, Pattaya 2024 ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ณ บริเวณชายหาด พัทยากลาง เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กรทรวงการท่องเที่ยว ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 มีนาคม 2567 รวมทั้งสิ้น 7,429,589 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 359,273 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน จำนวน 1,361,903 คน มาเลเซีย จำนวน 986,234 คน รัสเซีย จำนวน 492,302 คน เกาหลีใต้ จำนวน 467,131 คน และอินเดียจำนวน 364,422 คน