ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในทวีปเอเชียที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน รายงานว่า วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 9.00 น. ตามเวลาในประเทศจีน ซึ่งตรงกับเวลา 8.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ปรากฏว่า เปิดซื้อขายค่าเงินหยวนร่วงอ่อนค่าถึง 0.9% มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 7.3765 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
สาเหตุจากประธานาธิบดีสหรัฐประกาศขึ้นอัตราภาษีอีก 10% กับสินค้าที่นำเข้าจากประเทศจีนให้มีผลตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป ในขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวในคืนที่ผ่านมาว่า จีนจะดำเนินการฟ้องร้องไปยังองค์การการค้าโลก หรือดับเบิ้ลยูทีโอและเตรียมพร้อมมาตรการในการตอบโต้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับสินค้านำเข้าจากสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามทางการจีนยังเปิดเผยในรายละเอียดของมาตรการตอบโต้ดังกล่าวแต่อย่างใด
ในช่วงเช้าวันนี้ ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในทวีปเอเชียที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 9.00 น. ตามเวลาในประเทศญี่ปุ่นซึ่งตรงกับเวลา 7.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ปรากฏว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับเกือบทุกสกุลสำคัญของโลก โดยเฉพาะสกุลเงินในแถบเอเชีย ปรับแข็งค่าทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทันทีที่เปิดตลาดในเอเชีย
เริ่มจากค่าเงินหยวนร่วงลง 0.6% เคลื่อนไหวที่ระดับ 7.3625 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ร่วงลง 1% เคลื่อนไหวที่ระดับ 1.469 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนหนัก 0.9% เคลื่อนไหวที่ระดับ 0.6159 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินยูโรในเอเชียดำดิ่งถึง 2.3% เคลื่อนไหวที่ระดับ 1.0125 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่าเลวร้ายสุดในรอบ 2 ปี 2 เดือน หรือตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาดิ่งลงทำสถิติอ่อนค่ามากสุดในรอบ 22 ปี หรือตั้งแต่ปี 2003 อย่างไรก็ตาม มีเพียงค่าเงินเยนที่ทรงตัวที่ระดับ 155.12 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเปโซ เม็กซิโก ร่วงหนักถึง 2.3% มาอยู่ที่ 21.15 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติอ่อนค่ามากสุดใน 2 ปี 6 เดือน หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2022
สาเหตุจากนักลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนแถบเอเชียมีความกังวลอย่างมากกับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการเก็บภาษีเพิ่มขึ้นระหว่าง 10-25% กับประเทศแคนาดา เม็กซิโก และจีน มีผลในวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์นี้ ขณะเดียวกัน นักลงทุนมั่นใจว่าการตอบโต้กลับโดยเฉพาะสงครามภาษีการค้าของทั้ง 3 ประเทศที่มีต่อสหรัฐอเมริกาจะมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน
สถานการณ์ดังกล่าวจะนำไปสู่ความเสี่ยงสูงและความไม่แน่นอนสูงเกี่ยวกับนโยบายการเงิน หรืออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของบรรดาธนาคารกลางสำคัญต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจจะชะลอตัวลงออกไปหรือมีจำนวนความถี่ในการปรับลดน้อยลง รวมถึงเป็นไปตามที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าภาวะเงินเฟ้อของประเทศสำคัญในเป้าหมายของประธานาธิบดีสหรัฐจะมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต