แอร์บัส (Airbus) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องบิน หรืออากาศยานชื่อดังระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส เปิดแถลงข่าวด่วนว่า แอร์บัสประกาศเรียกคืนเครื่องบินแอร์บัสรุ่นเอ 320 (A320) จำนวน 6,000 ลำ ซึ่งให้บริการการบินอยู่ใน 15 สายการบินชั้นนำทั่วโลก โดยพบว่ามีรุ่น A320 จำนวนมากกว่า 3,000 ลำที่กำลังให้บริการการบินทั่วโลกในขณะนี้ นั่นหมายถึงการเรียกคืนเครื่องบินรุ่นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อฝูงบินของสายการบินรวมกันมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือกว่า 50% ของทั่วโลก นับเป็นการเรียกคืนเครื่องบินครั้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทแอร์บัสที่มีมีอายุมามากกว่า 55 ปี
แอร์บัส ออกแถลงการณ์ว่า ตรวจพบปัญหาที่สำคัญอย่างมากกับเครื่องบินรุ่น A320 พบว่าขณะเกิดพายุสุริยะ หรือ Solar Storm ที่รุนแรง เช่น เปลวไฟที่มีอุณหภูมิสูงจัดมากจากแสงอาทิตย์ อาจทําให้ข้อมูลที่สำคัญญที่มีผลต่อการทํางานของการควบคุมการบินเสียหาย นอกจากนี้ อาจทําให้นักบินสูญเสียการควบคุมเครื่องบินแอร์บัสในซีรีย์ A320 ได้แก่ A319, A320 และ A321s ซึ่งทั้งหมดตรวจพบในเครื่องบินรุ่นซีรีย์ดังกล่าวประมาณ 6,000 ลํา เครื่องบินโดยรุ่นนี้กลายเป็นรุ่นที่มียอดขายและส่งมอบดีที่สุดในโลก ซึ่งชนะยอดส่งมอบของเครื่องบินยี่ห้อโบอิ้งรุ่น 737 ของสหรัฐอเมริกาไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ผ่านมา
สำหรับเครื่องบินรุ่น A320 ที่ตรวจพบว่ามีปัญหาดังกล่าวประมาณ 6,000 ลำจะประกอบไปด้วย จำนวน 5,100 ลำ จะต้องทำการแก้ไขด้วยการปรับปรุงซอฟต์แวร์ที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องนักบิน และระบบของเครื่องบิน ซึ่งจะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงขึ้นไป ดังนั้นจะส่งผลต่อเที่ยวบินของสายการบินต่างๆที่ใช้เครื่องบินในรุ่นซีรี่ส์ดังกล่าวต้องล่าช้า หรือถึงขั้นยกเลิกการบิน
ในขณะที่อีก 900 ลำ พบว่าเป็นเครื่องบินที่มีอายุการใช้งานมานาน และใช้โปรแกรมในเวอร์ชั่นเก่า จึงมีความจำเป็นที่จะจะต้องนำเครื่องบินในกลุ่มนี้ ไปทำการเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ในห้องนักบิน แอร์บัสไม่อนุญาตให้นำเครื่องบินในกลุ่มนี้ทำการบินรับส่งผู้โดยสารไปอีกระยะหนึ่ง ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ตาม เนื่องจากจะต้องมีการบินทดสอบความเรียบร้อย และความปลอดภัยกันต่อไป ดังนั้น การซ่อมแซมปัญหาดังกล่าวในเครื่องบินกลุ่มที่ 2 นี้ ที่มีจำนวน 900 ลำ จึงไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าจะใช้เวลายาวนานแค่ไหน อย่างไร ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่จะต้องนำไปเปลี่ยนทั้งหมด
ในปัจจุบัน เครื่องบินแอร์บัสซีรีย์ A320 ใช้ทำการบินเชิงพาณิชย์ทั้งขนส่งสินค้า และบริการผู้โดยสารทั่วโลกรวมทั้งหมด 11,300 ลำ ประกอบด้วยรุ่น A320 ในรุ่นหลัก มีจำนวน 6,440 ลำ ซึ่งเริ่มมีการใช้งานตั้งแต่ปี 1987 เป็นต้นมา นอกจากนี้สายการบินที่มีขนาดใหญ่ 4 จาก 10 อันดับแรกของโลก ที่ใช้เครื่องบินแอร์บัส ซีรีย์ A320 พบว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสายการบินสัญชาติอเมริกัน ได้แก่ อเมริกันแอร์ไลน์ เดลต้าแอร์ไลน์ ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ และเจ็ทบลู นอกจากนี้ยังมีสายการบินสัญชาติจีน สัญชาติยุโรป และสัญชาติอินเดียที่มีเครื่องบินรุ่นดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2025 ผ่านมา เครื่องบินยี่ห้อแอร์บัสรุ่น A320 ของสายการบินเจทบลูในสหรัฐอเมริกา ในเที่ยวบินที่ 1230 ขณะทำการบินอยู่บนท้องฟ้าจากเมืองแคนคูน เม็กซิโก ไปยังเมืองเนวการ์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ปรากฎว่าเครื่องบินเสียการควบคุมกระทันหัน ลำตัวเครื่องกดิ่งลงในแนวดิ่งท่ามกลางความสูง ทำให้นักบินต้องตัดสินใจขอลงจอดฉุกเฉินในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้มีผู้โดยสารประมาณ 15 ได้รับบาดเจ็บ และถูกนําตัวส่งโรงพยาบาลทันที
ทั้งนี้ แอร์บัส เปิดเผยรายชื่อสายการบินที่ใช้เครื่องบินซีรี่ย์ A320, A321s และ A319 ที่พบปัญหาดังกล่าว มีดังนี้ เรียงตามลำดับจำนวนเครื่องบินรวมกันทั้งหมด อันดับ 1.อเมริกันแอร์ไลน์ จำนวน 475 ลำ 2.ไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ จำนวน 392 ลำ อันดับ 3. ไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ จำนวน 334 ลำ อันดับ 4.อินดิโก(อินเดีย) จำนวน 312 ลำ อันดับ 5.เดลต้า แอร์ไลน์ จำนวน 305 ลำ อันดับ 6.เจทบลู จำนวน 220 ลำ อันดับ 7. ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ จำนวน 201 ลำ
อันดับ 8.อิสซี่ เจ็ท จำนวน 190 ลำ อันดับ 9.แอร์ไชน่า จำนวน 188 ลำ อันดับ 10.ฟร้อนท์เทียร์ แอร์ไลน์ จำนวน 166 ลำ อันดับ 11.ลุฟท์ฮันซ่า จำนวน 156 ลำ อันดับ 12.เสฉวน แอร์ไลน์ จำนวน 156 ลำ อันดับ 13.ลาแทม แอร์ไลน์(บราซิล) จำนวน 143 ลำ อันดับ 14.เตอร์กิช แอร์ไลน์ จำนวน 137 ลำ และอันดับ 15.สปริง แอร์ไลน์ จำนวน 133 ลำ
