รัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยว่าพายุเฮอริเคนเฮลลีน ได้พัดถล่มในบริเวณทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 93 ราย และคาดว่าจะพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันเป็นบริเวณกว้างในรัฐฟลอริดา รัฐนอร์ทแคโรไลน่า และรัฐเวอร์จิเนีย คาดการณ์บริการความเสียหายในครั้งระหว่าง 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐถึง 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 495,000 ล้านบาท ถึง 3.3 ล้านล้านบาท
รัฐบาลประเทศเนปาล เปิดเผยว่า ฝนตกหนักติดต่อกันถึง 2 วันบริเวณเทือกเขาหิมาลัยยัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงฉับพลัน วัดปริมาณน้ำได้ 322.2 มิลลิเมตร หรือมีความสูงถึง 12.7 นิ้ว ทำให้ประชาชนชาวเนปาลเสียชีวิตรวมกันกว่า 151 คน สูญหาย 65 คน เกิดภาวะน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้างในเมืองหลวงกรุงกาฎมันฑุ ซึ่งเฉพาะในพื้นที่นี้มีจำนวนผู้เสียชีวิตถึง 37 ราย
รัฐบาลทหารประเทศเมียนมาร์ เปิดเผยว่า ภายในสัปดาห์เดียวที่พายุโซนร้อนยางิ พัดถล่มตอนกลางประเทศเมียนมาร์ โดยเฉพาะเมืองมัณฑะเลย์ เมืองหลวงกรุงเนปิดอว์ และรัฐฉาน นับตั้งแต่ช่วง 10 ถึง 17 กันยายน 2024 ส่งผลให้มีประชาชนชาวเมียนมาร์เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 226 ราย มี 77 รายสูญหาย นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากร 55 ล้านคนในประเทศเมียนมาร์ตกอยู่ในความยากลำบากและมีความจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
รัฐบาลประเทศเวียดนาม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2024 เป็นวันแรกที่พายุโซนร้อนยางิ ซึ่งเป็นพายุที่มีขนาดความรุนแรงมากที่สุดในปีนี้ของทวีปเอเชียได้พัดขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ส่งผลให้ประชาชนชาวเวียดนามเสียชีวิตมากกว่า 292 ราย และสูญหายมากกว่า 38 ราย ในแง่มูลค่าความเสียหายทั้งหมดในภาพรวมนั้นคาดการณ์ว่าจะมีสูงถึงกว่า 1,600 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 52,800 ล้านบาท ซึ่งมีผลกระทบทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามลดลงราว 0.15%
สำหรับประเทศไทย มีรายงานว่าวิกฤติน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงทางภาคเหนือของไทย ซึ่งไหลพัดถล่มสร้างความเสียหายในพื้นที่จังหวัดเชียงราย และยังส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายในจังหวัดใกล้เคียงในช่วงตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมกันทั้งสิ้น 45 ราย มีครัวเรือนมากกว่า 147,000 ครัวเรือน ซึ่งกระจายใน 30 จังหวัดได้รับผลกระทบ นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมมาถึงในช่วงที่เกิดวิกฤตน้ำป่าไหลหลากทางภาคเหนือ ธนาคารกรุงศรีคาดการณ์ว่าจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจมีมูลค่าราว 46,500 ล้านบาท ส่งผลกระทบต่อจีดีพีประเทศไทยราว 0.27% ในปีนี้ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดจะสร้างความเสียหายสูงถึง 59,500 ล้านบาท หรือกระทบต่อจีดีพีไทยราว 0.35%
รัฐบาลประเทศฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2024 ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นยางิได้พัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์ ส่งผลให้มีประชาชนจากฟิลิปปินส์เสียชีวิต 13 ราย ตามสถิติของประเทศฟิลิปปินส์พบว่าในแต่ละปีประเทศฟิลิปปินส์จะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนและพายุไต้ฝุ่นเฉลี่ยปีละ 20 ลูก
รัฐบาลประเทศจีน เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านไปมีประชาชนชาวจีนเสียชีวิตหรือสูญหายรวมกันกว่า 328 ราย และยังส่ง ผลกระทบต่อประชาชนชาวจีนมากกว่า 26.4 ล้านคน ที่อยู่อาศัยมากกว่า 12,000 หลังคาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง และที่อยู่อาศัยอีกกว่า 157,000 หลังได้รับความเสียหาย พื้นที่เพาะปลูกการเกษตรมากกว่า 2.42 ล้านเฮกเตอร์ได้รับความเสียหาย สาเหตุจากฝนตกหนักและเกิดสภาวะน้ำท่วมหนักฉับพลันกระจายเป็นวงกว้างทางตอนใต้ของประเทศจีน