นีลเส็น ไอคิว บริษัทวิจัยด้านข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค เผยแนวโน้มผู้บริโภคคนไทยในช่วงกลางปี 2567 ยังแบกรับภาวะความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจและค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงในหลายด้าน โดยที่เห็นเด่นชัดคือ 84% สนใจหารายได้เพิ่มขึ้น นอกจากงานประจำ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ทำให้พร้อมรับมือจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้บริโภค 29% มีสถานะทางการเงินดีขึ้นตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นถึง 24% ส่วนอีกด้านผู้บริโภค 35% รู้สึกว่าสถานะทางการเงินแย่ลง แต่มีแนวโน้มดีขึ้นจาก 48% เมื่อเทียบการสำรวจในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
อีกปัจจัยที่มีผลคือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภค 36% มีความกังวลมากขึ้นจากค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น ถือว่าสูงขึ้น 32% จากปีก่อน
สำหรับการใช้จ่ายเชิงกลยุทธ์และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลจากต้นทุนเพิ่มขึ้น โดย 43% มองว่าความมั่นคงทางการเงินของครอบครัวยังไม่กระทบ ส่วน 45% ปรับมาซื้อของออนไลน์ ทำให้ข้อเสนอที่ดี ช่วยลดการเดินทาง และประหยัดค่าน้ำมัน รวมถึงจากงบประมาณครัวเรือนที่ตึงตัว ทำให้ผู้บริโภคคนไทย 25% หันมาซื้อสินค้าจำนวนมาก ช่วยในเรื่องต้นทุนต่อการใช้งานที่ลดลง รวมถึง 80% ของผู้บริโภคชื่นชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาให้มีราคาจับต้องได้
ด้าน Centric Lifestyles ผู้บริโภค 76% มีความพร้อมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อผลิตภัณฑ์ที่ทนทานมากขึ้น เพื่อลดความจำเป็นในการเปลี่ยนบ่อยครั้ง รวมถึงสนใจสนใจจ่ายด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น และ 74% มีการใช้จ่ายในวิตามินและอาหารเสริมเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้จากอิทธิพลของโลกดิจิทัลและการบริโภค สะท้อนว่าผู้บริโภคคนไทย 76% ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 46% อีกทั้ง ผู้บริโภค 22% ชอบใช้อุปกรณ์อัจฉริยะ เช่น ตู้เย็นที่มีเซ็นเซอร์ เนื่องจากช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิต
สำหรับเทรนด์ที่ต้องจับตามองในอนาคต โดยในปี 2568 ผู้บริโภค 1 ใน 3 สนใจเลือกซื้อของทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น เนื่องจากได้รับประสบการณ์ที่สะดวกจากทั้ง ออมนิชาแนล เทคโนโลยีเอไอ ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคและการนำเสนอหลายวิธี พร้อมมอบความคุ้มค่าด้านราคาและนวัตกรรม จะช่วยดึงดูดความภักดีของแบรนด์ในระยะยาว