โฟล์คสวาเก้น เอจี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และในยุโรป เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมกับ SAIC หรือกลุ่มบริษัทยานยนต์เอสเอไอซี ได้เตรียมประกาศขายโรงงานผลิตรถยนต์ในเขตภูมิภาคปกครองตนเองมีชื่อว่าซินเจียง คืนให้กับบริษัทในเครือกลุ่มรัฐวิสาหกิจพัฒนาหลินกัง เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน หรือ SLDG การขายสินทรัพย์ดังกล่าว ประกอบด้วย โรงงานผลิตรถยนต์ สนามวิ่งทดสอบรถยนต์ภายในพื้นที่ของโรงงาน ทั้งหมดที่อยู่ในเขตซินเจียง และนครเซี่ยงไฮ้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการขยายสินทรัพย์ดังกล่าว
สาเหตุจากโฟล์คสวาเก้นเผชิญกับยอดขายรถยนต์ที่ตกต่ำต่อเนื่องในตลาดรถยนต์จีน ถึงขั้นสูญเสียแบรนด์รถยนต์ขายดีที่สุดในประเทศจีนให้กับบีวายดี ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน อย่างไรก็ตาม โฟล์คสวาเก้นได้ร่วมทำงานและพัฒนากับค่ายรถยนต์พลังงานใหม่ในจีน ได้แก่ เอ็กซ์เผิง ในการพัฒนาและผลิตรถยนต์แบรนด์โฟล์คสว้าเก้นที่เหมาะสมกับผู้บริโภคชาวจีน ด้วยเป้าหมายผลิตรถอีวี และรถรุ่นไฮบริดจำนวนมากกว่า 30 รุ่นภายในปี 2030
นอกจากนี้ โฟล์คสวาเก้นต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากข้อกล่าวหาของกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมในจีนที่กล่าวอ้างว่าโรงงานผลิตรถยนต์โฟล์คสวาเก้นในเขตปกครองตนเองซินเจียงมีการใช้บังคับใช้แรงงานจำนวนมากมายที่พักอาศัยอยู่ในแคมป์พนักงานในโรงงาน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้เคยออกมายืนยันว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงงานแห่งนี้
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมผ่านมา นายแดนีลา คาวัลโล ประธาสภาแรงงานพนักงานบริษัทโฟล์คสวาเก้น เอจี ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี และในยุโรป เปิดเผยต่อการประชุมพนักงานที่เป็นสมาชิกของสภาแรงงานว่า โฟล์คสวาเก้น เอจี สรุปปิดโรงงานอย่างน้อย 3 แห่ง ส่งผลให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 10,000 คนขึ้นไปที่จะต้องถูกปลดออกจากทั้งหมดกว่า 300,000 คน เพื่อเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการตัดลดค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด และมีความจำเป็นในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์โฟล์คสวาเก้น ซึ่งเป็นแบรนด์หลักของทั้งกลุ่ม