นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HomePro) เปิดเผยว่า ประเมินภาพเศรษฐกิจปี 2567 จะเติบโตได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล โดยบริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตตามจีดีพีปีนี้ ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าจะโตที่ 2.8% ซึ่งถือว่าโฮมโปรได้พลิกบทบาทธุรกิจครั้งใหญ่บนความท้าทายใหม่ๆ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า คู่ค้า รวมถึงพันธมิตร ตอกย้ำแบรนด์เบอร์หนึ่งผู้นำเรื่องบ้าน ด้วยยุทธศาสตร์ 5 ปี เพื่อก้าวสู่ธุรกิจแสนล้าน ภายใต้แผนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน พร้อมขยายสาขาครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กว่า 170 สาขา โดยปี 2567 มีแผนขยายสาขาขนาดใหญ่อีก 6–8 สาขาด้ว
สำหรับโครงการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่าง Easy e-Receipt คนละ 50,000 บาท มองว่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายเพิ่มขึ้น เพราะแตกต่างจากปี 2566 คือเป็น e-Tax ทั้งหมด ทำให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมีน้อยลง แต่โฮมโปรเป็นหนึ่งในร้านที่ร่วมรายการ ทำให้เราเชื่อว่าเราจะได้อานิสงส์มากขึ้นกว่าปี 2566 รวมถึงคาดว่าจะได้รับประโยชน์มากกว่าโครงการ “ช้อปดี มีคืน” ในปี 2565 เนื่องจากใช้รูปแบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ 100% จากโครงการ “ช้อปดี มีคืน” ที่วงเงินลดหย่อนภาษี 40,000 บาท และเป็นใบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ 10,000 บาท ทำให้ผู้บริโภคกระจายการซื้อสินค้าไปยังร้านค้ารายเล็กอื่นได้เพิ่มขึ้น