นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ใน 1 ปีจะสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท มีถึง 70% ของผลิตภัณฑ์ที่ขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมาจากต่างประเทศ ที่น่าสนใจ คือกรณีสินค้าของแพลทฟอร์มออนไลน์จีนชื่อเทมู (Temu) เป็นการนำเข้าถึง 100% ด้วย ภาวะนี้สะท้อนถึงหนึ่งในความเสี่ยงจากนโยบายระหว่างประเทศ ทำให้ไปรษณีย์ไทยต้องติดตามนโยบายภาษีศุลกากรต่างตอบแทน หรือกำแพงภาษีรัฐบาลสหรัฐอเมริกา นโยบายดังกล่าวอาจส่งผลต่อการขนส่งระหว่างประเทศทั่วโลกรวมถึงเมืองไทย
ภาวะดังกล่าว มีผลกระทบให้หลายประเทศที่เคยส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา จึงมีต้นทุนสูงมาก ต้องหาตลาดเพื่อระบายสินค้าจนอาจทำให้มีสินค้าต่างประเทศไหลทะลักเข้ามาในประเทศไทยมาก จึงเป็นอุปสรรคของผู้ประกอบการรายย่อยในประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ ร้านค้าสินค้าต่างๆ ในไทยเมื่อขายสินค้ายากมากขึ้นถึงขั้นขายไม่ได้ ก็มีผลต่อปริมาณหรือจำนวนสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยถือกับลูกค้าเหล่านี้ก็จะน้อยลงด้วย
ดังนั้น ไปรษณีย์ไทยจะเป็นแค่คนรอรับของไปส่งไม่ได้ ต้องทำมากกว่านั้น จึงกำหนดกลยุทธ์เพื่อสร้างจุดแข่งขันให้ธุรกิจไทยครบรอบด้าน ผ่านการใช้จุดแข็งและทรัพยากรของไปรษณีย์ไทยที่มีอยู่ เช่น บริการขนส่งที่ครอบคลุมหลากหลายธุรกิจ เช่น นมแม่ ยา และปลาสวยงาม การจับมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลกอย่างอีเบย์ และอเมซอน เพื่อผลักดันธุรกิจไทยที่มีศักยภาพไปตลาดโลก