สถาบันมิลเคน (Milken) เปิดเผยการจัดทำรายงานจุดหมายปลายทางของการลงทุนจากต่างประเทศประจำปี 2024 ซึ่งสะท้อนการจัดอันดับจากค่าดัชนีโอกาสการลงทุนโลก หรือ Global Opportunity Index 2024 หรือจีโอไอ(GOI) ครอบคลุม 106 ประเทศทั่วโลก พบว่า ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 37 ที่ต่างประเทศชื่นชอบเข้าลงทุน หรือเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนของต่างชาติ ในขณะที่เมื่อพิจารณาเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน พบว่าประเทศไทยอยู่อันดับ 3 โดยเป็นรองประเทศมาเลเซียที่อยู่ในอันดับ 2 อาเซียน และอยู่อันดับ 27 ของโลก ซึ่งทิ้งห่างจากประเทศไทยถึง 10 อันดับ และสิงคโปร์อยู่อันดับ 1 อาเซียน และเป็นอันดับ 14 ของโลก
สำหรับประเทศไทยที่ได้อันดับ 37 ของโลก และอันดับ 3 อาเซียนนั้น ไทยได้รับการจัดอันดับในแต่ละ 5 กฎเกณฑ์หลักการจัดอันดับระดับโลก ได้แก่ มุมมองด้านธุรกิจอยู่อันดับ 21 โครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจอยู่อันดับ 22 บริการการเงินอยู่อันดับ 29 กรอบระเบียบกฎหมายอยู่อันดับ 51 นโยบายและมาตรฐานความเป็นสากลอยู่อันดับ 68 ซึ่งมีเพียงกฎเกณฑ์ด้านมุมมองธุรกิจที่ประเทศไทยที่อยู่เกือบถึง 20 อันดับแรกของกฎเกณฑ์นี้
เฉพาะในภูมิภาคอาเซียน(ตัวเลขในวงเล็บเป็นอันดับโลก) พบว่า อันดับ 1 สิงโปร์(14) อันดับ 2 มาเลเซีย(27) อันดับ 3 ไทย(37) อันดับ 4 อินโดนีเซีย(55) อันดับ 5 เวียดนาม(65) อันดับ 6 ฟิลิปปินส์(91) อันดับ 7 กัมพูชา(93)
รายงานดังกล่าวได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 2 ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในเอเชีย หรือ E&D ซึ่งมีทั้งหมด 10 ประเทศ (ตัวเลขในวงเล็บเป็นอันดับโลก) มีดังนี้ อันดับ 1 มาเลเซีย(27) อันดับ 2 ไทย(37) อันดับ 3 จีน(39) อันดับ 4 อินโดนีเซีย(55) อันดับ 5 เวียดนาม(65) อันดับ 6 อินเดีย(72) อันดับ 7 มองโกเลีย(78) อันดับ 8 ศรีลังกา(82) อันดับ 9 ฟิลิปปินส์(91) และอันดับ 10 กัมพูชา(93)
สิ่งที่น่าสนใจ คือ 4 ประเทศแรกจาก 10 ประเทศในกลุ่มประเทศเกิดใหม่และกำลังพัฒนาในเอเชีย หรือ E&D ซึ่งได้แก่ มาเลเซีย ไทย จีน และอินโดนีเซีย ล้วนได้คะแนนสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวมทั้งหมด 10 ประเทศในกลุ่มดังกล่าว โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียมีความโดดเด่นมากที่สุด เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมในการต้อนรับและดคงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้ดีที่สุด โดยเฉพาะกฎเกณฑ์ด้านบริการการเงิน และกรอบระเบียบกฎหมาย
แมกกี้ สวิเทค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของสถาบันมิลเคน Milken Institute กล่าวว่า การลงทุนในประเทศพัฒนาแล้วจะมีเสถียรภาพ แต่นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการผลตอบแทนสูง ยังคงให้ความสนใจในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และกำลังพัฒนาด้วย ในบรรดาประเทศ E&D ในเอเชีย นักลงทุนให้ความสนใจมาเลเซียมากที่สุด ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 27 ของโลก สาเหตุจากมาเลเซียมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ด้วยกัน และได้คะแนนนำในด้านกรอบระเบียบกฎหมาย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่มาเลเซียให้ความสำคัญต่อสิทธิของนักลงทุนเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ 20 อันดับแรกของโลก ประกอบด้วย อันดับ 1 เดนมาร์ก อันดับ 2 สวีเดน อันดับ 3 ฟินแลนด์ อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา อันดับ 5 สหราชอาณาจักร อันดับ 6 เนเธอร์แลนด์ อันดับ 7 เยอรมนี อันดับ 8 สวิสเซอร์แลนด์ อันดับ 9 นอร์เวย์ อันดับ 10 ไอร์แลนด์ อันดับ 11 นิวซีแลนด์ อันดับ 12 ออสเตรีย อันดับ 13 แคนาดา อันดับ 14 สิงคโปร์ อันดับ 15 ฮ่องกง อันดับ 16 ญี่ปุ่น อันดับ 17 บักเซมเบิร์ก อันดับ 18 ออสเตรเลีย อันดับ 19 เบลเยียม และอันดับ 20 ไอซ์แลนด์