ไทยมีโอกาสขึ้นฮับอุตสาหกรรมแว่นตาโลก ยั้งรั้งเบอร์สองผลิตแว่นและเลนส์ของโลก สูงวัยพุ่ง-ชีวิตติดจอ-ใส่แว่นแต่เล็ก คาดดันตลาดแว่นตาในไทยจะโตปีละกว่า 11% ชี้ตลาดแว่นตาในอาเซียนโตทะลุ 4 แสนล้านใน 10 ปีหน้า เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟมาแรง

ไทยมีโอกาสขึ้นฮับอุตสาหกรรมแว่นตาโลก ยั้งรั้งเบอร์สองผลิตแว่นและเลนส์ของโลก สูงวัยพุ่ง-ชีวิตติดจอ-ใส่แว่นแต่เล็ก คาดดันตลาดแว่นตาในไทยจะโตปีละกว่า 11% ชี้ตลาดแว่นตาในอาเซียนโตทะลุ 4 แสนล้านใน 10 ปีหน้า เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟมาแรง

นายสมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ISOPTIK กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก โดยเป็นผู้ผลิตแว่นตาและเลนส์แว่นตาเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงประเทศจีน ในปี 2024 ตลาดแว่นตาของอาเซียนมีมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท ขณะที่ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 63,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 31.5% ของตลาดแว่นตาของอาเซียน นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าตลาดแว่นตาของอาเซียนจะมีมูลค่า 124,000 ล้านบาท ที่สำคัญ ในอีก 10 ปีข้างหน้า ตลาดแว่นตาของอาเซียนจะเติบโตเป็นปีละมากกว่า 400,000 ล้านบาท ส่วนประเทศไทยนั้น ภายในปี 2030 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า ตลาดดังกล่าวในไทยจะมีอัตราการเติบโต 11.6% ต่อปี

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดแว่นตาเติบโต ได้แก่ การเป็นสังคมผู้สูงวัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีสายตายาวตามวัยที่เพิ่มขึ้น รูปแบบการใช้ชีวิตในยุคดิจตอลที่ต้องมีการใช้โทรศัพท์มือถือ ทำให้เกิดภาวะติดจองซึ่งพบได้ในกลุ่มวัยทำงาน และเด็กวัยเรียนที่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัล การเพิ่มขึ้นของคนชนชั้นกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อแว่นตาที่เน้นคุณภาพมากกว่าราคาถูก จาก 3 ปัจจัยดังกล่าว ทำให้กลุ่มประชาชนหลักในอุตสาหกรรมแว่นตา ได้แก่ วัยทำงานอายุ 30–55 ปี หรือวัยเจนวายถึงเจนเอ็กซ์ กลุ่มผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป หรือเจนเบบี้บูมเมอร์ และกลุ่มเด็กเล็ก ซึ่งพบว่าในปัจจุบันเกิดปัญหาสายตาสั้นเร็วขึ้นกว่าเด็กเล่นในอดีต

ดร.วุฒิพงษ์ พึงพิพัฒน์ อาจารย์พิเศษ สาขาวิชาทัศนมาตรศาสตร์ เปิดเผยว่า แม้อุตสาหกรรมแว่นตาในอาเซียนมีการเติบโตที่ดี แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถผลิตบุคลากรเฉพาะทาง คือนักทัศนมาตรให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด สำหรับประเทศไทยมีจำนวนนักทัศนมาตรเพียง 800 คน ซึ่งถือเป็นอุปสรรคหนึ่งของการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ จึงควรเร่งผลิตนักทัศนมาตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ISOPTIK เปิดเผยต่อไปว่า การผลิตเลนส์แว่นตาในไทยจะเป็นแว่นตาและเลนส์สายตาคุณภาพสูง เมื่อเทียบกับจีนที่เป็นอันดับ 1 ในการผลิตด้านปริมาณ และเน้นราคาถูก โดยเฉพาะเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ต้องการของลูกค้ามากขึ้น ทำให้ตลาดเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 376,000 ล้านบาท ส่วนในอาเซียนนั้น เมื่อปี 2024 มีขนาดตลาดอยู่ที่ 32,750 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่า ในปี 2035 ตลาดเลนส์ดังกล่าวจะมีอัตราการเติบโตปีละ 10 % มีมูลค่ามากกว่าปีละ 76,000 ล้านบาท

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles