ไทยแอร์เอเชียลั่นปีนี้ขนส่งผู้โดยสาร 23-24 ล้านคนเป็นนิวไฮ ปี 67 โกยกำไรเป็นครั้งแรกหลังโรคโควิด-19 กว่า 3,000 ล้านบาท กำไรฟื้นตัวเต็ม 100% บินเกือบ 21 ล้านคนฟื้นใกล้ 100% เทียบช่วงก่อนโรคโควิด-19

ไทยแอร์เอเชีย ลั่นปีนี้ขนส่งผู้โดยสาร 23-24 ล้านคนเป็นนิวไฮ ปี 67 โกยกำไรเป็นครั้งแรกหลังโรคโควิด-19 กว่า 3,000 ล้านบาท กำไรฟื้นตัวเต็ม 100% บินเกือบ 21 ล้านคนฟื้นใกล้ 100% เทียบช่วงก่อนโรคโควิด-19

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ. ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่าปี 2567 เป็นปีที่บริษัทมีผลการดำเนินงานพลิกฟื้นกลับมาใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิดอย่างชัดเจน โดยตลอดปี 2567 ขนส่งผู้โดยสารรวม 20.8 ล้านคน มีฝูงบินแอร์บัส 60 ลำ เทียบกับปี 2562 ที่เคยขนส่งผู้โดยสารสูงสุด 22.1 ล้านคน และฝูงบิน 63 ลำตามลำดับ

“การฟื้นตัวนี้ส่งผลให้ผลประกอบการทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่ง โดยมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 49,436 ล้านบาท สูงกว่าปี 2562 ที่มีรายได้ 40,181 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากราคาตั๋วโดยสารที่เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่ปรับตัวขึ้นอย่างมากจากการสะดุดของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมการบินในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

“ปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนเเบ่งการตลาดภายในประเทศ ซึ่งเราทำได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึงร้อยละ 41 ในเดือนตุลาคม และมีส่วนเเบ่งการตลาดตลอดปีอยู่ที่ร้อยละ 40 เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางที่มากขึ้น ไทยแอร์เอเชียได้เพิ่มความถี่บินและเปิดตัวเปิด 2 เส้นทางใหม่ ดอนเมือง-ลำปาง และสุวรรณภูมิ-หาดใหญ่

ในขณะที่ตลาดระหว่างประเทศ เน้นการปรับเเผนให้สอดคล้องกับเเต่ละตลาด โดยตลาดจีนในปีที่ผ่านมาแม้ว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นอับดับหนึ่ง แต่อัตราการฟื้นตัวค่อนข้างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ดี การสนับสนุนด้านมาตรการยกเว้นวีซ่าของทั้งรัฐบาลไทยและจีนทำให้เห็นแนวโน้มคนไทยไปเที่ยวประเทศจีนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ส่วนภูมิภาคที่น่าสนใจอีกด้านหนึ่งคือตลาดเอเชียใต้ โดยเฉพาะอินเดีย ที่ขยายตัวได้ดีหลังการปลดล็อกเรื่องโควต้าที่นั่งในช่วงครึ่งปีหลังที่ผ่านมา โดยปัจจุบันเราเป็นสายการบินที่มีเส้นทางบินเชื่อมไทยกับอินเดียมากที่สุด ส่วนตลาดอาเซียนยังคงมีศักยภาพที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะตลาดเวียดนามที่ไทยแอร์เอเชียครองส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในเที่ยวบินระหว่างไทย-เวียดนาม

ในปี 2567 ด้านการพัฒนาความยั่งยืน AAV ยังประสบความสำเร็จในการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างเห็นได้ชัด โดยในปีที่แล้ว บริษัทได้รับคะแนน 83 คะแนน จาก SET ESG Ratings ซึ่งเทียบเท่ากับบริษัทที่ได้รับการประเมินระดับ AA และเป็นคะแนนที่สูงที่สุดในกลุ่มสายการบินในประเทศไทย

อย่างไรก็ตามจากการขาดทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้บริษัทยังไม่สามารถกลับเข้าการจัดอันดับเนื่องจากยังไม่ผ่านเกณฑ์ประเมินด้านความสามารถในการทำกำไร แต่ด้วยผลประกอบการที่ฟื้นตัวต่อเนื่องบริษัทคาดหวังว่าปีหน้าจะสามารถผ่านเกณฑ์และได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings ได้อีกครั้ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนจาก FTSE Russell ESG ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์กับ FTSE Russell เป็นปีแรก โดยได้รับคะแนน 3.7 จากคะแนนเต็ม 5 

ก้าวต่อไปในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตรายได้จากการขายและบริการใกล้เคียงร้อยละ 15 จากปีก่อน เพิ่มเครื่องบินแอร์บัส A321neo จำนวน 6 ลำ เป็น 66 ลำในปีนี้ และตั้งเป้าที่จะขยายส่วนแบ่งทางการตลาดภายในประเทศให้มากกว่าร้อยละ 40 อย่างต่อเนื่อง โดยต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาไทยแอร์เอเชียได้เปิด 2 เส้นทางใหม่ สุวรรณภูมิ-อุดรธานี เเละสุวรรณภูมิ-ขอนเเก่น รวมเป็น 6 เส้นทางในปัจุบัน

นอกจากนี้ยังมีแผนขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศเพิ่มเติมตลอดทั้งปีนี้ รวมถึงการใช้กลยุทธ์สิทธิเสรีภาพที่ 5 โดยตั้งเป้าขนส่งผู้โดยสาร 23-24 ล้านคนในปี 2568 ซึ่งจะเป็นสถิติใหม่สูงสุดของบริษัทต่อไป

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles