ไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์คูเปอร์ หรือพีดับเบิลยูซี (PwC) ซึ่งเป็น 1 ใน 4 บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจตรวจสอบบัญชี และบริการที่ปรึกษาการลงทุน ซึ่งเรียกกันสั้นๆ ว่าบิ๊กโฟร์ เปิดเผยว่าเตรียมปลดพนักงานจำนวนมากถึง 1,500 คนหรือคิดเป็น 2% ของจำนวนพนักงานที่จ้างงานปัจจุบัน 75,000 คนในประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายสื่อสารองค์กร พีดับเบิลยูซี (PwC) เปิดเผยว่าการตัดสินใจในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ยากลําบาก และดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ความรอบคอบ และการตระหนักอย่างลึกซึ้งถึงผลกระทบที่มีต่อพนักงาน
ในเดือนเมษายนผ่านไป ไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์ คูเปอร์ หรือพีดับเบิลยูซี (PwC) ปิดกิจการและสำนักงานทั้ง 9 แห่งมีอยู่ในแต่ละประเทศในภูมิภาคแอฟริกา ได้แก่ ไอวอรี่โคสต์ กาบอง แคเมอรูน มาดากัสการ์ เซเนกัล สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐกินี และอิเควทอเรียลกินี โดยให้เหตุผลว่าเป็นการทบทวนเชิงกลยุทธ์ของธุรกิจในภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนี้ สหราชอาณาจักรสั่งปรับพีดับเบิลยูซี (PwC) เป็นเงิน 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 198 ล้านบาท หลังตรวจพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบธนาคารไวแลนด์ Wyelands เกี่ยวกับงบประมาณ 2019 ของธนาคารดังกล่าว
ในปี 2024 ผ่านไป พีดับเบิลยูซี เผชิญกับลูกค้าจำนวนมากเลิกใช้บริการ ส่งผลให้ต้องตัดลดค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องด้วยการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากในต่างประเทศ ที่สำคัญ พีดับเบิลยูซีในจีนแผ่นดินใหญ่ถูกทางการจีนสั่งปรับเงิน 62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2,050 ล้านบาท และถูกสั่งห้ามดำเนินการเป็นเวลานาน 6 เดือนติดต่อกัน หลังเกิดกรณีความผิดพลาดในการตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีนมีชื่อว่าไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้เสียในธุรกิจดังกล่าวมากที่สุดในโลก ที่สำคัญ ทางการจีนตรวจสอบพบว่าไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ทำการฉ้อโกงมากถึง 78,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.65 ล้านล้านบาท
