LINE ประเทศไทย จัดงาน “LINE BEAUTY TECH 2025” เวทีเสวนาเปิดโลกธุรกิจความงามในมุมมองใหม่ รวมผู้นำจากวงการความงามระดับโลกและไทย ร่วมถอดบทเรียนและอัปเดตเทรนด์สำคัญแห่งปี เพื่อรับมือการแข่งขันในตลาดบิวตี้ที่ดุเดือด พร้อมความท้าทายยุค Fragmented Era
คุณ เปรียว คเนจร ณ อยุธยา หัวหน้าทีมที่ปรึกษาธุรกิจ Personal Care, LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ข้อมูลจาก Custom Market Insight ตลาดความงามของไทยในปีนี้มีมูลค่าอยู่ที่กว่า 170,000 ล้านบาท และคาดจะเติบโตต่อเนื่องจนถึงปี 2034 ในอัตรา 5.45% ต่อปี โดยแบรนด์ต้องเผชิญการแข่งขันที่ซับซ้อนขึ้น ทั้งจากแบรนด์ระดับโลกและแบรนด์ไทยที่ต่างพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อแย่งชิงความสนใจของผู้บริโภค ขณะที่เทรนด์ Health & Self-Care ทำให้ผู้บริโภคทั้งชายหญิงและในหลากหลายช่วงอายุหันมาใส่ใจสุขภาพและความงามมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงรวดเร็วกว่าเดิม จนแบรนด์ต้องหันมาแข่งขันกันที่ “ความเข้าใจ” เพื่อสร้าง“ความสัมพันธ์” การทำ CRM จึงกลายเป็นสมรภูมิใหม่ที่แบรนด์ควรใส่ใจอย่างจริงจัง
จากอินไซต์ของ LINE พบว่าในปีนี้ ธุรกิจกลุ่ม Health & Beauty มีการใช้งานเครื่องมือ MyCustomer | CRM สร้างระบบสมาชิก สะสมแต้มบน LINE เพิ่มสูงเป็นอันดับ 2 จากทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ลูกค้ากว่า 50% เป็นสมาชิกมากกว่าสองแบรนด์ขึ้นไป และแบรนด์มีการมอบพอยท์เพิ่มขึ้นถึง 31% ขณะที่การเชื่อมต่อ LINE Messaging API เพิ่มขึ้นเกือบ 5 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน สะท้อนถึงทิศทางของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการทำ CRM เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าโดยตรง เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารแบบ Personalized ต่อยอดสู่ CRM-Driven Communication เปลี่ยนจากเพื่อนใน LINE กลายเป็นลูกค้าที่รักและแนะนำแบรนด์ต่อได้จริง
ภายในงาน Wisesight ได้เผยพฤติกรรมผู้บริโภคไทยอันน่าสนใจ ที่พลิกโฉมตลาดบิวตี้ในปีนี้ ได้แก่
-Beauty Identity ผู้บริโภคให้คุณค่ากับ “ความสวยในแบบของตัวเอง” มากขึ้น ด้วยการพูดถึง Self-Love บนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นกว่า 80% ในช่วงครึ่งปี 2025 ที่ผ่านมา
Work-Life Imbalance ชีวิตที่เร่งรีบทำให้คนเน้นมองหาผลิตภัณฑ์ตัวช่วยในการดูแลตัวเองที่สะดวก รวดเร็ว ทันใจ
Value for Money ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน ผู้บริโภคใช้เวลาเปรียบเทียบราคาและอ่านรีวิว หาข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อเลือกสิ่งที่รู้สึกคุ้มค่ากับการลงทุนที่สุด
Longevity ผู้บริโภคยุคใหม่เริ่มสนใจผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์หรือใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสุขภาพระยะยาว
Seamless Experience กว่า 78% ของผู้บริโภคต้องการประสบการณ์การซื้อที่ง่ายและไร้รอยต่อ ตั้งแต่การคลิกดูสินค้า ทดลอง จนถึงจ่ายเงิน แบรนด์จึงจำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้าในยุคปัจจุบันเพื่อเท่าทันทุกเทรนด์และทุกโมเมนต์ การเข้าใจลูกค้าด้วยการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างถูกจุด ถูกประเด็น และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว จะช่วยให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในใจลูกค้าได้ถูกจังหวะ ถูกที่ ถูกเวลา
ยกระดับ CRM ให้ครอบคลุม ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยในทุก Journey เพื่อยกระดับ CRM ให้ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ ภายในงานLINE ได้สรุปผังเครื่องมือการตลาดแบบครบวงจรที่เชื่อมโยง Customer Journey ในทุกจุดไว้ พร้อมให้ธุรกิจความงามยกระดับการทำ CRM ให้ครอบคลุมครบจบได้ในที่เดียวได้ ตั้งแต่การทำ Commerce ตอบโจทย์การซื้อขายที่ง่าย สะดวก ทันใจผ่านเครื่องมือ MyShop ที่ไม่ปิดกั้นการเชื่อมต่อกับอีมาร์เก็ตเพลสและช่องทางอื่นๆ ได้ การ Connect กับลูกค้า ด้วยเครื่องมือMyCustomer | CRM เพื่อทำระบบสมาชิก สะสมแต้ม เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้าและดูแลความสัมพันธ์ในระยะยาวได้อย่างตรงใจ ล่าสุด LINE ยังมีโซลูชันทางเลือกใหม่อย่าง LINE MINI App ให้แบรนด์สามารถสร้างแอปฯ ของตัวเองบน LINE ให้ลูกค้าเข้าถึงหน้าบริการต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องโหลดแอปฯ เพิ่ม แบรนด์สามารถสร้างลิงก์ Custom Path URL เป็นชื่อแบรนด์โดยเฉพาะเพื่อเพิ่มการจดจำได้ และช่วยให้แบรนด์เชื่อมลูกค้าใหม่เข้าสู่ LINE OA ไปด้วยในตัว
ไปจนถึงการ Communicate สื่อสารหาลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ตรงใจ ทั้งการสื่อสารผ่านโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ในปีนี้ แบรนด์กลุ่มบิวตี้มีการลงโฆษณาผ่านระบบ LINE Ads เติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ ด้วยอัตรา Reach พุ่งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 2 จากทุกหมวดธุรกิจที่ลงโฆษณาบนLINE โดย LINE ยังแนะนำการลงโฆษณาโดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเองหรือ Custom Audience โดยใช้ข้อมูล CRM ในการแบ่งกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้ CTR สูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 39% ในขณะที่การสื่อสารผ่าน LINE OA พบว่ากว่า 70% ของธุรกิจกลุ่มบิวตี้ยังคงบรอดแคสต์หาผู้ติดตามทั้งหมดเป็นส่วนใหญ่ LINE จึงแนะนำการบรอดแคสต์ข้อความเฉพาะกลุ่ม (Targeted Broadcast) โดยใช้ข้อมูล CRM ในการแบ่งกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดข้อความ 19% และ CTRถึง 54%