กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เผยแพร่รายงานอัปเดตแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ฉบับล่าสุดในวันที่ 22 เม.ย. ตามเวลา ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐ โดยนำเสนอ “การคาดการณ์จีดีพีโลกใน 3 ฉากทัศน์ที่แตกต่างกัน” เพื่อสะท้อนความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ IMF ออกคาดการณ์เศรษฐกิจโลกออกมาเป็นหลายฉากทัศน์เช่นนี้ ซึ่งทั้งสามฉากทัศน์ประกอบด้วย 1.ประมาณการอ้างอิง (Reference Forecast) 2.ประมาณการก่อน 2 เม.ย. (วันที่สหรัฐประกาศภาษีตอบโต้) 3.ประมาณการหลัง 9 เม.ย. (วันที่สหรัฐชะลอการบังคับใช้ภาษีออกไป 90 วัน)
การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ประกอบด้วย 3 กรณี ได้แก่
กรณีการอ้างอิงตัวเลขคาดการณ์ (Reference Forecast)นั้น คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ 2.8% และในปี 2026 อยู่ที่ 3.0% โดยรวมมาตรการภาษีที่ประกาศระหว่างวันที่ 1 ก.พ. ถึง 4 เม.ย. ผ่านมา นอกจากนี้ ยังสะท้อนผลกระทบทางตรงจากมาตรการทางการค้าและผลกระทบทางอ้อมผ่านการเชื่อมโยงทางการค้า รวมถึงคำนึงถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นที่ลดลง ตลอดจนผลของนโยบายคลังและนโยบายการเงินในบางประเทศที่ช่วยชดเชยผลกระทบด้านลบจากการค้า
กรณีการประมาณการก่อนวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศมาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs นั้น ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวที่ 3.2% ทั้งในปี 2025 และ 2026 ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการคาดการณ์ในรายงานเมื่อเดือนม.ค 2025 ผ่านมา เพียง 0.1% โดยมีความแตกต่างจากสมมติฐานเรื่องประกาศนโยบายการค้า ระดับความไม่แน่นอน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ผันผวน สำหรับในกรณีนี้ได้รวมเฉพาะนโยบายการค้าที่ประกาศระหว่าง 1 ก.พ. ถึง 12 มี.ค. 2025 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนในกรณีมีน้อยกว่าช่วงที่คำนวณหลังจากนี้เป็นต้นไป
กรณีการประมาณการหลังวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ประธานาธิบดีสหรัฐสั่งชะลอการบังคับใช้ภาษีต่างตอบแทนออกไป 90 วัน ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปี 2025 จะเติบโตที่ 2.8% และในปี 2026 ขยายตัวที่ 2.9% ในปี 2569 โดยรวมการประกาศมาตรการภาษีหลังวันที่ 4 เม.ย. อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ถูกรวมไว้ในประมาณการตามกรณีแรก เนื่องจากมีการนำกรณีการเลื่อนบังคับใช้ภาษี 90 วันมาประกอบด้วย แต่ยังคงอัตราภาษีต่างตอบแทนขั้นต่ำ 10% กับทุกประเทศ และรวมปัจจัยการเพิ่มภาษีระหว่างจีนและสหรัฐที่ต่างฝ่ายต่างตอบโต้กัน โดยมีผลคล้ายกับการคาดการณ์ในกรณีแรก แต่เฉพาะจีนและสหรัฐที่จะได้รับผลกระทบมากขึ้น
ทั้งนี้ ในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฉบับเดือน ม.ค. 2025 ที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟประเมินว่าเศรษฐกิจโลกปี 2568 จะขยายตัวที่ 3.3% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากรายงานฉบับเดือนตุ.ค. 2567 ที่ระดับ 3.2% อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวเป็นการคำนวนโดยที่ยังไม่ได้นำปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนของภาษีทรัมป์เข้ามาประกอบ