นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า กองทุนฯ อยู่ระหว่างดำเนินการส่งหนังสือขอให้ชำระหนี้และบอกเลิกสัญญาผู้กู้ยืม จำนวน 807 ราย ที่ไม่เคยติดต่อชำระเงินคืนเลยเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ หากผู้กู้ยืมยังเพิกเฉยกองทุนฯมีความจำเป็นต้องดำเนินคดีเพื่อมิให้รัฐเสียหาย แต่หากผู้กู้ยืมกลุ่มดังกล่าวมาปรับโครงสร้างหนี้ จะมีโอกาสขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี และผู้ค้ำประกันจะหลุดพ้นจากความรับผิดทันทีหลังจากทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
สำหรับเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กำหนดให้ผู้กู้ยืมผ่อนชำระเงินคืนกองทุนฯ เป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน และต้องชำระภายในวันที่ 5 ของทุกเดือนให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี โดยในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ เมื่อชำระหนี้งวดสุดท้ายเสร็จสิ้นกองทุนฯ จะให้ส่วนลดเบี้ยปรับเดิมที่ตั้งพักไว้ทั้งหมด 100% จากการที่กองทุนฯได้เปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567–28 เมษายน 2567 มีผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวน 32,338 ราย ยอดหนี้รวมทั้งหมดกว่า 6,542 ล้านบาท
นอกจากนี้กองทุนฯจะเปิดให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 9–10 พฤษภาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยพายัพ (เขตแม่คาว) อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงผู้กู้ยืมสามารถเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ที่งาน “มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม” ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ณ โรงเรียนสมุทรปราการ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ และ ณ โรงแรมสีหราช อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
หลังจากนั้นจะมีการจัดในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป และผู้กู้ยืมสามารถเข้ามาปรับโครงสร้างหนี้ได้ที่สำนักงานกองทุนฯทุกวันโดยสามารถลงทะเบียนนัดหมายเข้าทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ได้ทางเว็บไซต์ www.studentloan.or.th