กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขึ้นทะเบียน GI “กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์”สัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญจังหวัด สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 538 ล้านบาท

นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา มีนโยบายสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง กระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน กรมฯ จึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคเกษตร ผ่านการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า อีกทั้งยังเป็นการควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 

ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์” เป็นสินค้า GI ลำดับ 4 ของจังหวัดกาฬสินธุ์ต่อจากสินค้า ผ้าไหมแพรวากาฬสินธุ์ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ และพุทรานมบ้านโพน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้

“กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์” เพาะเลี้ยงในบ่อที่มีการวางผังบ่อเลี้ยงเพื่อสะดวกต่อการจัดการบ่อ มีระบบชลประทานโดยใช้น้ำที่มีคุณภาพดี สะอาด มีค่าความกรด – ด่างที่เหมาะสม มีลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย หรือดินเหนียวปนร่วนปนทราย หรือดินทรายที่สามารถเก็บน้ำได้ มีแหล่งผลิตในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่มีลักษณะภูมิประเทศหลากหลายตั้งแต่ภูเขาถึงที่ราบลุ่ม สามารถแบ่งได้ 5 ลักษณะ คือ (1) พื้นที่ภูเขา (2) พื้นที่หุบเขา (3) พื้นที่ลูกคลื่น (4) พื้นที่ค่อนข้างราบ และ (5) ที่ราบลุ่มริมฝั่งน้ำ ประกอบกับจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีสภาพอากาศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา โดยมีฤดูฝนและฤดูแล้งสลับกันชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อการสร้างเปลือกของกุ้งก้ามกราม ทำให้เปลือกกุ้งมีความหนาไม่มาก ประกอบกับดินที่เป็นดินร่วนปนดินทรายหยาบ ทำให้กุ้งที่เลี้ยงตัวใสสะอาด อีกทั้งน้ำที่ใช้เลี้ยงกุ้งยังมีแร่ธาตุสมบูรณ์ ส่งผลให้เนื้อสัมผัสของกุ้งมีความเหนียว นุ่ม เนื้อแน่นเต็มเปลือก เมื่อปรุงสุกจะมีรสชาติหวาน ไม่มีกลิ่นคาว ด้วยคุณภาพของกุ้งก้ามกรามจึงนับได้ว่า “กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์” เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อประชาสัมพันธ์ผลผลิต กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้กุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เป็นที่ต้องการของตลาด สร้างรายได้ให้กับชุมชนกว่า 538 ล้านบาทต่อปี

ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้รับการยกระดับมูลค่าสร้างรายได้สู่ชุมชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากของไทยอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ขอเชิญชวนทุกท่านติดตามข่าวสาร  ความเคลื่อนไหว และร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้า GI ได้ที่ Facebook Page : GI Thailandหรือโทรสายด่วน 1368

ติดตาม BTimes ได้ตามช่องทางข้างล่างนี้
Latest Posts

Related Articles