นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลัง กล่าวว่า ส่วนตัวอยากเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2567 ให้ได้มากถึง 70% ขึ้นไป ซึ่งขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 3-4 เดือน ก็ต้องเร่งทำงาน หากหน่วยงานใดติดขัดปัญหาส่วนไหน ต้องเร่งนำมาปรับแก้ เพื่อเคลียร์ปัญหาในส่วนนั้น ๆ โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง
นางแพตทริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2567 อยู่ที่ 5.5 แสนล้านบาท โดยภายในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2567 (เม.ย.-มิ.ย.) กรมบัญชีกลางกำหนดเป้าหมายว่าจะต้องเบิกจ่ายได้ไม่น้อยกว่า 21% ซึ่งปัจจุบันมีการเบิกจ่ายไปแล้ว 38.6% สูงกว่าเป้าหมาย แต่ต้องยอมรับว่ายังมีบางกระทรวงที่มีการเบิกจ่ายล่าช้า หลัก ๆ เป็นส่วนราชการ กลุ่มจังหวัด และจังหวัดต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องมาเร่งรัดเพื่อให้การเบิกจ่ายทำได้ดีมากขึ้น จึงได้มอบการบ้านให้แต่ละกระทรวงเร่งทำแผนชี้แจงแนวทางการเบิกจ่ายงบประมาณ การผูกพันงบประมาณ และให้นำมารายงานภายใน 1 สัปดาห์ โดยหลัก ๆ จะให้ความสำคัญกับการเบิกจ่ายงบประมาณของกระทรวงขนาดใหญ่เป็นหลัก เนื่องจากมีงบลงทุนเกินกว่า 1 หมื่นล้านบาทขึ้นไป ซึ่งตัวเลขการเบิกจ่ายอาจจะยังไม่ขยับ ก็ให้หน่วยงานกลับไปเร่งพิจารณา โดยส่วนใหญ่ติดขัดปัญหาในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ที่อยู่ระหว่างการลงนามในสัญญา ติดปัญหาเรื่องการเข้าพื้นที่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงโครงการ ได้มอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดไปดูแลหน่วยงานภายใต้กำกับให้มีการเร่งรัดเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ที่คุมงบจังหวัด กลุ่มจังหวัด
นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า ภาพรวมงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ในปี 2567 อยู่ที่ 2.57 แสนล้านบาท ตั้งเป้าเบิกจ่ายไว้ 95% ซึ่งการเบิกจ่ายจนถึงเดือน พ.ค. 2567 พบว่า เบิกจ่ายแล้วกว่า 51% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เบิกจ่ายได้ 38% ซึ่งกระทรวงการคลังได้กำชับและเร่งรัดให้ทุกรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายสำคัญ อย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน ซึ่งทั้ง 3 กระทรวงนี้ มีงบลงทุนคิดเป็น 88% ของงบลงทุนรัฐวิสาหกิจให้เร่งเบิกจ่ายให้ได้ตามแผนงาน